เรื่อง โรคอ้วนลงพุง
ปัจจุบันวิถีชีวิตของคนไทยได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วเนื่องจากมีการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ในการอำนวยความสะดวกมากขึ้นเพื่อให้ทันต่อการแข่งขันในเวทีโลก ด้วยวิถีชีวิตที่เร่งรีบบวกกับพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเน้นการทานอาหาร หวาน มัน เค็มมากขึ้น ทานผัก ผลไม้น้อยลง อีกทั้งการเคลื่อนไหวร่างกายที่ลดลง ทำให้เกิดความเสี่ยงในการเป็นโรคอ้วนลงพุงมากขึ้น
โรคอ้วนลงพุง เกิดจากการมีไขมันสะสมในช่วงท้องปริมาณมาก ยิ่งมีรอบพุงมากเท่าไหร่ ไขมันยิ่งสะสมในช่วงท้องมากเท่านั้น ไขมันที่สะสมนี้จะแตกตัวเป็นกรดไขมันอิสระเข้าสู่ตับ มีผลให้อินซูลินออกฤทธิ์ได้ไม่ดี ทำให้การเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตลดน้อยลง และมีระดับน้ำตาลในกระแสเลือดมากขึ้น โรคอ้วนลงพุงเป็นสาเหตุของโรคแทรกซ้อนจำพวกโรคไม่ติดต่อที่เรียกว่า NCDs (Non-Communicable diseases) เช่น น้ำตาลในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง ก่อให้เกิดปัญหาทางจิตและการเจ็บป่วยขึ้น
สาเหตุของภาวะอ้วนและอ้วนลงพุง เกิดจากการขาดความสมดุลระหว่างพลังงานที่ได้รับและพลังงานที่นำออกมาใช้ เมื่อร่างกายได้รับพลังงานจากอาหารมากกว่าที่ร่างกายนำไปใช้ พลังงานส่วนนี้ก็จะถูกจัดเก็บในร่างกายและสะสมในรูปแบบของไขมัน และนำไปสู่โรคอ้วน
สำหรับผู้ที่ต้องการสำรวจตัวเองว่ามีภาวะอ้วนลงพุงหรือไม่ สามารถวัดรอบเอวของตัวเองผ่านบริเวณสะดือในจังหวะหายใจออก (ท้องแฟบ) โดยให้สายวัดแนบกับลำตัวไม่รัดแน่นจนเกินไป ถ้าหากเกินส่วนสูงหารสอง หมายถึง กำลังมีความเสี่ยงที่จะอ้วนลงพุง โดยรอบพุงที่เพิ่มขึ้นทุก ๆ ๕ ซ.ม.จะเพิ่มโอกาสในการเกิดโรคเบาหวาน ๓ – ๕ เท่า
ดังนั้น เพื่อให้เกิดความสมดุลของพลังงานที่ร่างกายได้รับจากการรับประทานอาหาร ทางสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)ได้ออกคัมภีร์ในการรณรงค์ ๓ อ.เพื่อพิชิตโรคอ้วนลงพุง
- อ.๑ อารมณ์ เพื่อให้เป้ามายในการลดน้ำหนักประสบความสำเร็จ อารมณ์นั้นเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เกิดแรงจูงใจและไม่ท้อถอยต่อการลดน้ำหนัก
- อ.๒ อาหาร ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน งดเว้นอาหารสำเร็จรูป อาหารฟาสต์ฟู้ด เครื่องดื่มรสหวาน และขนมกรุบกรอบประเภทต่าง ๆ ที่มีปริมาณน้ำตาล น้ำมันและเกลือในปริมาณมาก
- อ.๓ ออกกำลังกาย เคลื่อนไหวร่างกายและเพิ่มกิจกรรมทางกาย เช่น การเดินใกล้ ๆ ที่ใช้ระยะเวลาต่ำกว่า ๑๐ นาที การขี่จักรยานต่อเนื่อง ๑๐ นาทีขึ้นไป เดินขึ้นบันได การเล่นกีฬา เป็นต้น
โดย เพ็ญกมล ประเสริฐกุล
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|