เรื่อง การค้ามนุษย์ในประเทศไทย
ระดับ 3 (Tier 3) ติดต่อกันเป็นปีที่สองแล้วส่งผลให้ต่างชาติยังคงออกมาตรการแบนสินค้าส่งออกของไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งอาหารทะเลแช่แข็ง ปลา กุ้ง เนื้อวัว ฯลฯซึ่งการค้ามนุษย์ที่สามารถพบเห็นได้ในประเทศไทยมีทั้งหมด 4 รูปแบบด้วยกัน ได้แก่ การบังคับค้าประเวณี, การบังคับเพื่อธุรกิจทางเพศอื่น, การบังคับใช้แรงงาน (ประมง) และการบังคับขอทานซึ่งเป็นรูปแบบที่เราพบเห็นได้ทั่วไปตามสถานที่ชุมชนต่าง ๆ เช่น ในตลาด บริเวณห้างสรรพสินค้า บนสะพานลอย เป็นต้น และเราไม่สามารถทราบได้เลยว่าขอทานเหล่านั้นเป็นขอทานจริง ๆ ด้วยตัวเองหรือเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์กันแน่
การค้ามนุษย์ในประเทศไทยพบได้ทั้งในกรณีที่เป็นการค้ามนุษย์ภายในประเทศ จากจังหวัดหนึ่งไปอีกจังหวัดหนึ่ง และการค้ามนุษย์ระหว่างประเทศทั้งในเขตละแวกประเทศเพื่อนบ้านและข้ามทวีปไปค่อนโลก ซึ่งการค้ามนุษย์ในประเทศมักมีผู้หญิงและเด็กเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก และจากสถิติประจำปี 2556 ที่สำนักป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้าหญิงและเด็ก กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม. ได้รวบรวมไว้ พบว่ามีผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ที่เข้ารับการคุ้มครองสวัสดิภาพ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติรวมทั้งสิ้น 681 ราย โดยแบ่งเป็นคนไทย สูงถึง 305 ราย รองลงมาคือชาวเมียนมา ลาว กัมพูชา และประเทศอื่น จะเห็นได้ว่าคนไทยตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ในประเทศตัวเองเป็นจำนวนมาก ส่วนการค้ามนุษย์ระหว่างประเทศมักมีกลุ่มเป้าหมายเป็นเด็กและผู้หญิงต่างด้าว กรณีของคนไทยพบว่าธุรกิจทางเพศที่เกี่ยวกับบัญหาการค้ามนุษย์ภายในประเทศลดน้อยลง เนื่องจากมีคนต่างด้าวเข้ามาทดแทนเป็นจำนวนมาก ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มาจากเรื่องปัญหาเศรษฐกิจและการขาดความรู้ประเทศไทยมีฐานะเป็นทั้งประเทศต้นทางของการค้ามนุษย์ที่ส่งคนไทยไปขายยังต่างประเทศ ประเทศทางผ่านของการค้ามนุษย์ที่ปล่อยให้ขบวนการค้ามนุษย์เดินทางผ่าน และประเทศปลายทางของการค้ามนุษย์มีแรงงานต่างด้าวมากมายที่เข้าสู่วงจรนี้ที่ประเทศไทย ซึ่งส่วนใหญ่มาจากปัญหาด้านเศรษฐกิจเนื่องจากประเทศไทยมีความเจริญทางเศรษฐกิจมากกว่าประเทศเพื่อนบ้าน มีความเจริญก้าวหน้าทางอุตสาหกรรมทำให้มีความต้องการใช้แรงงานในอัตราที่สูงกว่าในประเทศเพื่อนบ้าน
สำหรับการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ในประเทศไทยนอกจากการปรับแก้ตัวบทกฎหมายว่าด้วยการค้ามนุษย์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์การค้ามนุษย์ในยุคปัจจุบันแล้ว ทางกระทรวงแรงงานยังได้ร่วมมือกับองค์การแรงงานระหว่างประเทศ หรือ ILO ในการศึกษาข้อมูลและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับแรงงานเด็กในประเทศไทยภายใต้งบสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา เป็นเงินกว่า 9 ล้านเหรียญ เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาต่อไป หากพบว่ามีการใช้แรงงานเด็กและแรงงานทาสจริง
นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้งคณะทํางานแก้ไขปัญหาแรงงานเด็ก แรงงานทาสในกิจการสินค้าประมง กุ้ง และโรงงานอุตสาหกรรม ตลอดจนถึงแรงงานภาคเกษตรกรรม เพื่อกําหนดทิศทางและเสนอแนวคิดในการป้องกันและแก้ปัญหา โดยมีทุกภาคส่วนเข้าร่วมเป็นกรรมการ ทั้งภาครัฐ เอกชน นายจ้าง ลูกจ้าง และ NGOs
ทั้งนี้ ทางภาครัฐควรจะต้องปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนเคารพและปฏิบัติตามกฎหมาย เคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และความเท่าเทียมกันเพราะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญและได้รับการยอมรับในระดับสากล และจะต้องดำเนินการแก้ปัญหาและป้องกันปราบปรามอย่างเป็นระบบและต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งต้องมีระบบประเมิน ติดตามผลการดำเนินงานเป็นประจำเพื่อนำผลการดำเนินงานมาพัฒนาให้เกิดประสิทธิภาพต่อไป
โดย ธัญลักษณ์ ฉิมดี
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|