เรื่อง พืชผัก ไม้ผลกับลมหนาว
ลมหนาวผิดธรรมชาติที่พัดเข้ามาเมื่อปลายเดือนมกราคม และช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ ทำให้คน สัตว์ต้องเจ็บป่วยและล้มตาย ต้นไม้ พืชผัก ไม้ผล ต่างได้รับผลกระทบเช่นกัน ลมหนาวระลอกนั้นแม้จะผ่านไป แต่ยังมีความกดอากาศสูงกำลังปานกลางระลอกใหม่พัดมาอีก เกษตรกรพึงระวัง โดยเฉพาะเกษตรกรที่เริ่มเพาะปลูกพืชในระยะต้นกล้าเจอลมหนาว จะทำให้ต้นไม้ชะงักการเจริญเติบโต ต้นไม้เหมือนกับคนเมื่อเจออากาศแปรปรวน เปลี่ยนแปลงกะทันหันจะหยุดการเจริญเติบโต เมื่อต้นไม้เจอกับความหนาวเย็นของเหลวในลำต้นจะไหลเวียนไม่ดี รากจะไม่ทำงานอาการเหมือนคนเบื่ออาหาร ด้วยเหตุนี้ เมื่อมีลมหนาวพัดเข้ามา จึงแนะนำไม่ให้ใส่ปุ๋ยทางดิน เพราะพืชไม่ดูดไปใช้งานจะสูญเงินเปล่า ปุ๋ยจะระเหิดระเหยไปกับสายลมและแสงแดด
นายอำนาจ โฉมชัชวาล นักวิชาการธุรกิจอารักขาพืช บริษัทจำหน่ายเมล็ดพันธุ์พืช กล่าวว่า ลมหนาวทำให้พืชเจ็บป่วย มีอยู่ใน ๒ ระยะ คือ ระยะช่วงที่ยังเป็นต้นกล้าย้ายลงแปลงปลูกไม่นาน ต้นกล้าจะเหมือนเด็กอยู่ในวัยที่ต้องเลี้ยงบำรุงให้ดีเพื่อจะได้โตเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์ทั้งสมอง ร่างกายและจิตใจ แต่เมื่อเจอลมหนาวเบื่ออาหาร กินไม่ได้ โตเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่สมบูรณ์ ให้ใบ ดอก ผลไม่ดี ไม่มีคุณภาพ ขายไม่ได้ราคา อีกระยะคือ ช่วงตั้งท้อง คนท้องต้องการอาหารบำรุงร่างกายมากเป็นพิเศษ เพราะต้องเลี้ยงทั้งตัวเองและทารกในครรภ์ ต้นไม้เช่นกันเจอลมหนาวจะเบื่ออาหาร ของเหลวในลำต้นไหลเวียนไม่ดี มิต่างระบบเลือดในร่างกายไหลเวียนไม่สะดวก เมื่อรวงข้าวได้อาหารไม่ทั่วถึง ผลผลิตจึงไม่สมบูรณ์
ส่วนวิธีเยียวยา ต้องหาวิธีกระตุ้นให้เกิดความหิว สำหรับพืชกระตุ้นด้วยการให้ฮอร์โมนในกลุ่มไนโตรฟีนอล เพื่อให้ของเหลวในระบบลำต้นไหลเวียนดีขึ้น สิ่งที่ตามมาพืชจะกระหายหิวอยากอาหารมากขึ้นนั่นเอง แต่ต้องกระตุ้นด้วยการฉีดพ่นทางใบเพื่อให้พืชกินได้ทันที เมื่อรากไม่ยอมทำงาน นำฮอร์โมนกลุ่มไนโตรฟีนอล หรืออโทนิค อัตราส่วน ๑๐ ซีซีต่อน้ำ ๒๐ ลิตร ร่วมกับธาตุอาหารรองในกลุ่มสังกะสี หรือเนเทอไรฟ์ อัตรา ๓๐ ซีซีต่อน้ำ ๒๐ ลิตร กระตุ้นเสริมให้พืชหิวกระหายมากขึ้น ซึ่งการฉีดพ่นทางใบให้ได้ผลดีควรลงมือทำก่อนที่อากาศจะหนาวเย็น และฉีดพ่นซ้ำทุก ๆ ๗ วันในช่วงลมหนาวมาเยือน.
โดย พรรณี ตั้งใจสถาปัตย์
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|