เรื่อง Infographicsคืออะไร

                       จากกระแสในสังคมออนไลน์ เรื่อง “สมุดภาพ Infographicsรัฐบาลเพื่อประชาชน” เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา หลายคนวิจารณ์กันไปต่าง ๆ นานา แต่ที่วิจารณ์กันมากเห็นจะเป็นเรื่องของการออกแบบดีไซน์ที่ออกจะเป็นสไตล์ราชการออกสักหน่อยส่วนใครยังไม่เคยเห็นสมุดภาพดังกล่าวอย่าให้ตกเทรนด์ สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ของรัฐบาล www.thaigov.go.th หัวข้อรายงานการแถลงผลงานรัฐบาลรอบ 1 ปี บริเวณแถบด้านขวาของเว็บ ท่านจะได้พบกับ “สมุดภาพ Infographicsรัฐบาลเพื่อประชาชน” จำนวน 100 หน้า ไม่ขาดไม่เกิน
หลายคนอาจสงสัยว่า อินโฟกราฟฟิค (Infographics)คืออะไร เพราะเห็นคำนี้บ่อยมาก ไม่เฉพาะแต่ใน “สมุดภาพ Infographicsรัฐบาลเพื่อประชาชน” เท่านั้น Infographics ย่อมาจาก Information Graphics แปลตรงตัวได้ว่าภาพหรือกราฟิกซึ่งบ่งชี้ถึงข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นสถิติ ความรู้ ตัวเลข ฯลฯ เรียกได้ว่าเป็นการนำข้อมูลหรือความรู้มาทำให้เข้าใจง่ายโดยใช้ภาพสื่อออกมาก เช่นกราฟ แผนที่ หรืออื่นๆ เพื่อให้กลายเป็นข้อมูลที่น่าสนใจ ผู้ชมสามารถเข้าใจได้เอง โดยไม่ต้องมีผู้นำเสนอช่วยขยายความเข้าใจอะไรอีก ทำให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Infographics เริ่มเป็นที่นิยมตั้งแต่ปี 2545 ส่วนในไทย Infographicsที่เห็นได้ชัดและเริ่มเป็นกระแสน่าจะเป็นในช่วงน้ำท่วมหนัก ปี 2554 ที่มีน้องวาฬ รู้ สู้ Floodเป็นอนิเมชั่นออกมาให้ความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติตัวช่วงน้ำท่วม เป็นกระแสถึงขนาดที่สถานีวิทยุโทรทัศน์ช่องต่าง ๆ นำไปเผยแพร่ออกอากาศ สาเหตุที่ Infographicsเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องมาจากปัจจุบันนี้เป็นยุคแห่งข้อมูลข่าวสาร แต่ละวันมีข้อมูลข่าวสารเกิดขึ้นมากมาย ผู้รับสารอย่างเรา ๆ ก็อาจจะรับบ้างไม่รับบ้าง หรือรับมาได้ไม่ทั้งหมด แต่ Infographics เป็นข้อมูลที่อัดแน่นในแบบรูปภาพ มองปราดเดียวสามารถเข้าใจเนื้อหาที่จะสื่อได้ทั้งหมด อีกทั้งปัจจุบันเป็นยุคแห่งโซเชี่ยลมีเดีย (Social Media) การแชร์ Infographics ต่อ ๆ กันจึงเป็นเรื่องที่ง่ายมาก ๆ เพราะกดแชร์เพียงแค่ภาพเดียวก็ครบจบในตอน จึงทำให้ Infographics นั้นง่ายที่จะเป็นกระแสแบบปากต่อปาก หรือที่เขาเรียกกันว่า Go viral ที่นักการตลาดปัจจุบันชอบใช้กัน นอกจากนี้ Infographics ยังเป็นตัวสร้างการรับรู้ในตราสินค้า(BrandAwareness)ชั้นยอด เนื่องจาก Infographics นั้นประกอบด้วยโลโก้ และข้อมูลติดต่อ เช่น เว็บไซต์ เบอร์โทรศัพท์เฟสบุ๊ค อินสตราแกรม เป็นต้น ซึ่งสามารถลิ้งค์มายังเว็บไซต์ของหน่วยงานได้โดยตรง
Infographics ที่ดีนั้นจะต้องทั้งสวยและสื่อ สวยในที่นี้คือต้องถูกต้องตามหลักการออกแบบกราฟฟิค ทั้งในเรื่องของการใช้สี การใช้ตัวอักษร การใช้สัญลักษณ์สื่อความหมาย การจัดวาง Layout หลักการใช้ที่ว่าง และหลักการออกแบบอีกมากมายซึ่งหากพูดกันวันนี้คงไม่จบ แต่เอาเป็นว่า Infographicsที่สวยนั้นเมื่อเรามองเราจะทราบเอง ว่าทั้งภาพทั้งสีเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งรูป พร้อมทั้งมีการจัดวางที่สวยงาม นอกจากนี้ความสวยนั้นยังต้องทำหน้าที่สื่อความหมายที่ถูกต้องด้วย ซึ่งเป็นเรื่องของข้อมูล เริ่มตั้งแต่เป้าหมายของ Infographics ว่าต้องการสื่อถึงเรื่องอะไร จากนั้นก็มาดูในเรื่องของข้อมูล ทั้งสถิติ ขั้นตอน หรือหลักการต่าง ๆ ที่จะต้องผ่านการคัดกรองว่ามีความถูกต้องไม่ผิดเพี้ยน ไปจนถึงการกลั่นกรองการใช้คำแต่ละคำที่จะต้องขัดเกลาให้ง่ายและสั้นที่สุด เพื่อให้อ่านเข้าใจง่ายเพียงแค่กวาดตามอง ซึ่งโดยสถิติแล้วคนจะใช้เวลาดู Infographics ประมาณ 3 นาทีเท่านั้น ดังนั้นถ้าข้อความยาวหรือซับซ้อนเกินไปผู้รับสารก็อาจถูกเบี่ยงเบนความสนใจไปสนใจอย่างอื่นแทน ยิ่งคนไทยอ่านหนังสือเฉลี่ยปีละ 8 บรรทัด ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นทั้งในประเทศอาเซียนด้วยกันเอง และประเทศเจริญแล้วอย่างสหรัฐอเมริกา
ดังนั้น Infographics จึงเป็นช่องทางหนึ่งที่ภาครัฐใช้เพื่อสื่อสารนโยบายและข่าวสารความรู้ต่าง ๆ ไปยังประชาชน เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในการทำงานของรัฐบาลมากขึ้น จากเดิมที่เป็นเอกสารวิชาการหนาเป็นตั้ง ๆ ใช้ศัพท์ก็แบบวิชาการยากต่อการทำความเข้าใจของประชาชนทั่วไป เปลี่ยนเป็นการใช้ภาษาที่ย่อยแล้ว เข้าใจง่าย รูปแบบสวยงามน่าอ่านน่าศึกษา รัฐบาลเริ่มแล้ว ดังนั้นทุกคนควรช่วยกันดู ช่วยกันศึกษาเริ่มต้นจาก “สมุดภาพ Infographicsรัฐบาลเพื่อประชาชน” ซึ่งมีเนื้อหาของนโยบายของรัฐบาลที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน อย่าลืมไปดาวน์โหลดกัน นอกจากนี้ในเว็บของกรมประชาสัมพันธ์ยังได้รวบรวม Infographics นโยบายรัฐบาลของกระทรวง กรมต่าง ๆ ที่สด ใหม่ อัพเดททุกวัน ซึ่งสามารถเข้าไปดูได้ที่ www.prd.go.th จากนั้นคลิกที่นโยบายรัฐบาลซึ่งอยู่บริเวณแถบด้านขวาของเว็บ

โดย   ธัญลักษณ์ ฉิมดี
เรียบเรียงโดย   สมจิตร ตาลสุก