เรื่อง โครงการบ้านประชารัฐ
โครงการบ้านประชารัฐ โดยธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ได้เตรียมวงเงิน ๓ หมื่นล้านบาทสำหรับปล่อยกู้ให้โครงการ ซึ่งวงเงินดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งจากวงเงินทั้งหมด ๑.๖ แสนล้านบาทที่ ธอส.เตรียมสนับสนุนโครงการภาครัฐ เช่น โครงการฟื้นฟูแฟลตดินแดง ๓ หมื่นล้านบาท รวมถึงโครงการสินเชื่อสวัสดิการอัตราดอกเบี้ยพิเศษแก่ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ รวมถึงเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น
โครงการบ้านประชารัฐนั้น ธอส.จะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในเดือนกุมภาพันธ์นี้ จากนั้นจะดำเนินการเฟสแรกในเดือนมีนาคม ๒๕๕๙ นี้ ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่เห็นด้วย แต่รอดูในรายละเอียดอีกครั้ง ขณะเดียวกันเห็นว่ายังมีอุปสรรคอีกหลายจุด รวมถึงเรียกร้องให้ภาครัฐนำมาตรการลดหย่อนภาษีเพื่อเพิ่มแรงจูงใจให้เอกชนเข้าร่วมโครงการ เพราะห้องชุดราคาไม่เกิน ๕ แสนบาทแม้จะเป็นที่เช่าราชพัสดุผู้ประกอบการอาจขาดทุนได้ ทางออกคือลดขนาดพื้นที่ใช้สอยห้องชุดและให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นที่ต้องพิจารณา อาทิ การกำหนดพื้นที่ส่วนกลาง ค่าใช้จ่ายดูแลทรัพย์ส่วนกลาง หากพิจารณาในรายละเอียดของ ธอส.จะพบว่า มีทั้งบ้านใหม่และเก่า หรือทรัพย์มือสอง และทรัพย์ที่นำมาขายกระจายออกไปคือ ไม่จำเป็นต้องอยู่ในโครงการหรือในอาคารเดียวกัน แต่ต้องนำมาขึ้นทะเบียนและอยู่ในเกณฑ์ที่ ธอส.กำหนด ผู้ประกอบการเอกชนที่เข้าร่วมโครงการต้องผ่าน ๓ สมาคมอสังหาริมทรัพย์คือ สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร, สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย และสมาคมอาคารชุดไทย โดยกรอบดำเนินการมีดังนี้ จะเปิดขึ้นทะเบียนผู้มีรายได้น้อยเข้าร่วมโครงการ และขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ด้วย ส่วนรูปแบบมีดังนี้
-สำหรับประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ ต้องมีรายได้ ๑๕,๐๐๐-๒๐,๐๐๐ บาท มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองหรือถ้ามีแล้วจะไม่เข้าข่าย
-สำหรับสินค้าหรือที่อยู่อาศัยที่จะเข้าโครงการ แบ่งเป็น ๒ ส่วน คือ เป็นที่อยู่อาศัยที่มีอยู่แล้วในตลาดหรือบ้านพร้อมอยู่ พร้อมโอน บ้านของการเคหะแห่งชาติ, ทรัพย์สินรอการขายที่อยู่กับ ธอส. และทรัพย์สินจากสถาบันการเงินหรือทรัพย์ NPA (Non-Performing Assets) ของธนาคาร หรือทรัพย์จากบริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (BAM) หรือ บบส. และทรัพย์จากบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (SAM) หรือ บบส.จากผู้ประกอบการเอกชน รวมถึงบ้านมือสองจากโบรกเกอร์อสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ในกรณีที่สร้างใหม่ เช่น สร้างบนที่ดินเอกชนเป็นกรรมสิทธิ์ขายขาด หากเป็นห้องชุดในคอนโดมิเนียมต้องราคาไม่เกิน ๗ แสนบาท บ้านแถวไม่เกิน ๙ แสนบาท การให้สินเชื่อ ธอส.กำหนดผ่อน ๓๐ ปี อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนพิเศษจากปกติ สำหรับคุณสมบัติผู้กู้มีรายได้ ๑.๕-๒ หมื่นบาท ธอส.ปล่อยกู้ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ส่วนกรณีสร้างบนที่ดินราชพัสดุ ที่กรมธนารักษ์ จำนวน ๓,๐๐๐ ยูนิต สิทธิการเช่าห้องชุดราคาไม่เกิน ๕ แสนบาท
ในการดำเนินการของ ธอส.ต่อโครงการของภาครัฐนั้น เป็นนโยบายหลักเพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของสังคมไทยทั้งในเมืองและชนบท ซึ่งมาตรการที่ออกมาสนับสนุนต่าง ๆ ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคธุรกิจ เศรษฐกิจและสังคม และโครงการบ้านประชารัฐนั้น ธอส.พร้อมเป็นพี่เลี้ยงในการเทรนด์ผู้มีรายได้น้อยในเกณฑ์กำหนด ให้มีวินัยด้านการเงิน รวมถึงวินัยในการเป็นเจ้าของร่วมที่จะอยู่อาศัยร่วมกัน.
โดย พรรณี ตั้งใจสถาปัตย์
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|