เรื่อง การแก้ปัญหาหมอกควัน
ปัจจุบัน ระดับของการเกิดไฟป่าในประเทศไทยมีความรุนแรงมากจนกลายเป็นปัจจัยที่รบกวนสมดุลของระบบนิเวศอย่างรุนแรง ส่งผลกระทบต่อพืช ดิน น้ำ สัตว์และสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ นอกจากนี้ ไฟป่ายังก่อให้เกิดวิกฤติมลพิษหมอกควันจนกลายเป็นปัญหาที่รุนแรงส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยและชีวิตของประชาชน
ปัญหาหมอกควันในประเทศไทย ส่วนใหญ่จะเกิดในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือตอนบน ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แม่อ่องสอน ลำพูน ลำปาง แพร่ น่านและตาก โดยในช่วงหน้าแล้งของทุกปี ระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม พื้นที่ภาคเหนือมักประสบกับปัญหาดังกล่าว โดยสาเหตุเกิดจากการเผาในพื้นที่เกษตร เผาวัชพืชริมทางและการเผาในชุมชน ก่อให้เกิดหมอกควัน ฝุ่นละออง เถ้า เขม่าควัน ระบายออกสู่บรรยากาศ ประกอบกับลักษณะภูมิประเทศที่เป็นแอ่งกระทะ สภาวะอากาศที่แห้งและนิ่ง ทำให้ฝุ่นละอองแขวนลอยอยู่ในบรรยากาศ ส่งผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม สุขภาพอนามัยของประชาชน บดบังทัศนวิสัยและส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้ให้ความสำคัญและเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาดังกล่าวไว้แล้ว แต่จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายให้ปฏิบัติตามแผนที่วางไว้อย่างจริงจัง เนื่องจากสถานการณ์ไฟป่าและปัญหาหมอกควัน ทำให้พื้นที่ป่าเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ตรวจพบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กอยู่ที่วันละ ๑๔๔-๑๕๒ ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินจากค่ามาตรฐาน ๑๒๐ ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจของประชาชน และเกิดอาการป่วยโรคตาแดง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดและโรคผิวหนังอักเสบ ดังนั้น รัฐบาลจึงกำหนดให้แต่ละจังหวัดใช้กลไกประชารัฐในการแก้ไขปัญหา โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอ ทำหน้าที่
บูรณาการความร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แบ่งหน้าที่และพื้นที่รับผิดชอบและเฝ้าระวังพื้นที่เกษตรกรรม พื้นที่ป่าอนุรักษ์ ป่าสงวนแห่งชาติและพื้นที่ริมทางหลวง เพื่อไม่ให้ปัญหาหมอกควันที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนมกราคม-เมษายน
มีความรุนแรงจนเข้าสู่ขั้นวิกฤต และได้ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด พร้อมให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามแผนงาน ควบคุมดูแล บังคับใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างเข้มงวดกับผู้ฝ่าฝืน
การแก้ปัญหาหมอกควัน จำเป็นต้องสร้างความเข้าใจกับกลุ่มเป้าหมายเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเผา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องรณรงค์ทุกรูปแบบเพื่อกระตุ้นจิตสำนึกของประชาชนในพื้นที่ให้ตระหนักถึงปัญหาและผลกระทบต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น
โดย ทิฆัมพร บุญมาก
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|