เรื่อง กฎระเบียบควบคุมการทำประมงผิดกฎหมาย (ไอยูยู)
พล.ร.ท.จุมพล ลุมพิกานนท์ ในฐานะโฆษกศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) กล่าวว่า กรณีรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเตรียมออกกฎระเบียบควบคุมการทำประมงผิดกฎหมาย (ไอยูยู) ด้วยการตรวจสอบที่มาของอาหารทะเลที่นำเข้าสหรัฐ ๑๖ ชนิด อาทิ ปลาทูน่า กุ้ง เป๋าฮื้อ ปูม้า ปูยักษ์คิงแครบ ปลิงทะเล และผลิตภัณฑ์จากฉลามทุกชนิดตามคำแนะนำของสำนักงานสมุทรศาสตร์และชั้นบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐ หรือโนอา การออกกฎควบคุมดังกล่าวมีลักษณะคล้ายกฎระเบียบมาตรฐานสากลการทำประมงสหภาพยุโรป (อียู) การที่สหรัฐเตรียมออกกฎควบคุมนำเข้าสินค้าประมงผิดกฎหมาย ให้สอดคล้องกฎสากลอื่นตามที่องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) กำหนด ทราบมาตลอดว่าสหรัฐเตรียมจะออกกฎระเบียบดังกล่าวมานานแล้ว กฎระเบียบดังกล่าวคล้ายคลึงกับไอยูยูของอียู ทำให้มีการเตรียมป้องกันและตรวจสอบการนำเข้าและส่งออกสินค้าสัตว์น้ำล่วงหน้า ก่อนที่สหรัฐจะประกาศกฎระเบียบ
ความพยายามแก้ไขการประมงไทยให้เป็นสากลตามข้อเรียกร้องของอียูเป็นเวลา ๑ ปีกว่าแล้ว เช่น ออกพระราชกำหนดประมงคุมเข้มการทำประมงผิดกฎหมาย ให้มีการตรวจสอบย้อนกลับตั้งแต่แหล่งการจับปลา เรือประมงต้องได้ใบอนุญาต มีเครื่องมือระบบติดตามแบบอิเล็กทรอนิกส์กับเรือที่ออกทำประมงนอกน่านน้ำ จนถึงโรงงานที่แปรรูปต้องไม่มีแรงงานผิดกฎหมาย การที่ไทยทำตามข้อเสนอแนะอียูในการแก้ไขปัญหาประมงมาตลอดน่าจะประยุกต์ใช้กับกฎระเบียบของสหรัฐได้เช่นกัน เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ภาคเอกชนได้ประกาศยกเลิกการว่าจ้างสถานประกอบการแปรรูปสัตว์น้ำภายนอก (ล้ง) เพื่อลดปัญหาการใช้แรงงานผิดกฎหมายของล้ง รวมทั้งจะได้ควบคุมตรวจสอบการแปรรูปสัตว์น้ำด้วยตัวเอง
นายไพบูลย์ พลสุวรรณา ที่ปรึกษาสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า หากรัฐบาลสหรัฐอเมริกาประกาศใช้กฎหมายไอยูยู จะส่งผลกระทบให้ผู้ประกอบการไทยมีต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ราคาอาหารทะเลแพงขึ้น ชาวประมงรายเล็กอาจได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับกรณีที่อียูให้ใบเหลืองแก่ไทย หากกฎหมายไอยูยูของสหรัฐบังคับใช้ จะมี ๑๐ ประเทศเท่านั้นที่สหรัฐนำเข้าสินค้าประมงเป็นหลักได้รับผลกระทบ ไม่ได้บังคับใช้กับทั่วโลกอาจเกิดความไม่เป็นธรรม ทำให้ผู้ประกอบการไทยสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน รวมทั้งทำสงครามแข่งขันด้านราคา เกิดการทุ่มตลาด และแย่งส่วนแบ่งการตลาด โดยเฉพาะสินค้าส่งออกหลัก อาทิ ทูน่าและกุ้ง มีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับผลกระทบหากสหรัฐบังคับใช้มาตรการดังกล่าว การบังคับใช้กฎหมายไอยูยูของสหรัฐจะเกิดการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรทางทะเล รวมทั้งจะเป็นการยกระดับมาตรฐานสุขอนามัย การบริหารจัดการ การตรวจสอบย้อนกลับของประเทศไทยให้มีความเป็นสากลมากยิ่งขึ้น
ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ เผยว่า การส่งออกสินค้าประมงไทยไปยังสหรัฐอเมริกาในปี ๒๕๕๘ มีสัดส่วนการส่งออก ๒๐.๘๑ เปอร์เซ็นต์ของตลาดส่งออกสินค้าประมงทั้งหมด คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น ๑๒,๓๒๔ ล้านบาทหรือติดลบ ๕.๒๕ เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปี ๒๕๕๗ ที่มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น ๑๓,๐๐๗ ล้านบาท แยกเป็นรายสินค้า เช่น กุ้ง ปลาหมึก ปลา ปูแช่เย็น แช่แข็ง นึ่งหรือต้ม หอย สัตว์น้ำจำพวกครัสตาเซีย และสินค้าประมงอื่น ๆ เป็นต้น
โดย พรรณี ตั้งใจสถาปัตย์
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|