เรื่อง แก้ไขจุดอ่อน ช่วยจัดอันดับความสามารถการแข่งขัน
กระทรวงการคลังได้เร่งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย โดยดำเนินมาตรการเพื่อแก้ไขจุดอ่อนของประเทศ ช่วยให้การจัดอันดับขีดความสามารถการแข่งขันดีขึ้น จากปัจจุบันอยู่ที่อันดับ ๓๒ ของโลกตามที่เวทีเศรษฐกิจโลกจัดอันดับไว้ แบ่งเป็น ๔ กลุ่มใหญ่ คือ ความแข็งแกร่งโครงการพื้นฐานทางกายภาพ, ความแข็งแกร่งโครงการพื้นฐานทางการเงิน, ความแข็งแกร่งโครงการพื้นฐานด้านสังคม และความแข็งแกร่งโครงการพื้นฐานด้านกฎหมาย ทั้งนี้ เพื่อให้ครอบคลุมกับประชาชนทุกกลุ่มของประเทศ
การสร้างความแข็งแกร่งโครงการพื้นฐานทางกายภาพ ประกอบด้วย มาตรการเร่งรัดโครงการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ หรือ พีพีพี ฟาส แทรค โดยลดระยะเวลาการศึกษาและวิเคราะห์โครงการ รวมถึงตรวจสอบข้อมูล ส่งผลให้ระยะเวลาการดำเนินโครงการลดลงกว่า ๑ ปี, จัดตั้งกองทุนโครงสร้างเพื่ออนาคตประเทศไทย (ไทยแลนด์ ฟิวเจอร์ ฟันด์) วงเงิน ๑๐๐,๐๐๐ ล้านบาทช่วยให้การลงทุนภาครัฐเร็วขึ้น ซึ่งจะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยในปีนี้ และการเพิ่มประสิทธิภาพหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ
ขณะที่ การสร้างความแข็งแกร่งโครงการพื้นฐานทางการเงิน ปรับปรุงและพัฒนาสถาบันการเงิน ผ่านธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แผนปฏิรูปสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (แบงก์รัฐ) แผนพัฒนาตลาดทุน และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการเงินผ่านโครงการอี-เพย์เม้นท์ ซึ่งช่วยให้ประชาชนและผู้ประกอบการมีความสะดวก และความคล่องตัวมากขึ้น
สำหรับความแข็งแกร่งโครงการพื้นฐานด้านสังคม และความแข็งแกร่งโครงการพื้นฐานด้านกฎหมาย ประกอบด้วย การยกระดับกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน, มาตรการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย (บ้านประชารัฐ) สังคายนากฎหมายเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง ภาษี และความยากง่ายในการประกอบธุรกิจ ช่วยให้รัฐบาลสามารถดูแลประชาชนและผู้ประกอบการธุรกิจได้ตรงจุดมากขึ้น
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ไขกฎระเบียบ จะให้ทันกับการสำรวจความคิดเห็นของสำนักงานกฎหมาย บริษัทเอกชน ก่อนที่ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) จะจัดอันดับความยากง่ายการทำธุรกิจรอบใหม่ โดยคาดว่า การจัดอันดับของไทยในปีหน้าจะดีกว่าปีนี้.
โดย พรรณี ตั้งใจสถาปัตย์
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|