เรื่อง : การจ้างงานคนพิการ
รัฐบาลมีนโยบายลดความเหลื่อมล้ำของสังคมและสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐ โดยเฉพาะการเร่งสร้างโอกาส อาชีพ และการมีรายได้ที่มั่นคงให้แก่ประชาชนในทุกกลุ่มอย่างทั่วถึง รัฐได้ให้ความสำคัญกับผู้พิการ ให้ได้รับสิทธิ และโอกาสที่เท่าเทียมกับบุคคลอื่น ๆ ด้วยความเสมอภาค จากข้อมูลล่าสุดของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้พิการ จำนวน 1,737,469 คน และอยู่ในวัยทำงานประมาณ 800,000 คน หรือประมาณร้อยละ 45 ของจำนวนคนพิการทั้งหมด ผู้พิการเหล่านี้พบว่ามีศักยภาพในหลาย ๆ ด้าน จึงถือว่าเป็นพลังที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมอย่างมาก รัฐจึงมุ่งเน้นผู้พิการเหล่านี้ให้มีงานทำอย่างทั่วถึง
กระทรวงแรงงาน ได้กำหนดสัดส่วนการจ้างงานคนพิการในสถานประกอบการโดยมีกฎกระทรวง กำหนดให้สถานประกอบการที่มีลูกจ้าง 100 คน ขึ้นไป ต้องจ้างคนพิการเข้าทำงานสัดส่วน คือ 100:1 กรณีมีลูกจ้าง 1,000 คน ก็ต้องจ้างคนพิการเข้าทำงาน 10 คน หากสถานประกอบการที่เข้าเกณฑ์ต้องจ้างคนพิการเข้าทำงาน แต่จ้างไม่ได้หรือไม่ได้จ้างจะมีทางเลือกโดย 1. ส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการในอัตราที่กฎกระทรวงกำหนดปัจจุบันกำหนดไว้รายละ 109,500 บาท ต่อปี (300×365) 2. การให้สัมปทาน จัดสถานที่จำหน่ายสินค้าหรือบริการจัดจ้างเหมาช่วยงานหรือจ้างเหมาบริการโดยวิธีพิเศษ ฝึกงาน หรือจัดให้มีอุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกแก่ล่ามภาษามือหรือให้ความช่วยเหลืออื่นใดแก่คนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการก็ได้ และต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในระเบียบที่เกี่ยวข้อง และที่สำคัญและที่จ้างงาน (คนพิการ) พ.ศ. 2556 ซึ่งรัฐบาลได้ให้สัตยาบันไว้แล้ว เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2550 การจ้างงานคนพิการไม่จำกัดกรอบว่าต้องทำงานในสถานประกอบการอีกต่อไป นายจ้างสามารถจ้างคนพิการทำงาน เพื่อสังคมในชุมชนใกล้บ้านของเขาได้ หากการจ้างงานนั้นเป็นไปโดยถูกต้องตามกฎหมาย
ในปี 2559 มีผู้ประกอบการ/นายจ้าง จ้างงานและส่งเสริมอาชีพคนพิการโดยผ่านภาคีเครือข่ายการทำงานคนพิการ เพิ่มขึ้นแล้วประมาณ 2,000 คน และมีเป้าหมายที่จะขยายผลให้มีการจ้างงานและส่งเสริมอาชีพคนพิการให้มากยิ่งขึ้น หากผู้พิการเหล่านี้สามารถก้าวข้ามผ่านออกมาจากความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ ท่านก็สามารถเข้าสู่สังคมได้อย่างภาคภูมิใจ
โดย ณัฐชยา เหมือนสมหวัง
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|