เรื่อง  ฟินเทค (Financial Technology) กับบทบาทเกี่ยวกับชีวิตคนไทย
 
                   นาทีนี้เทคโนโลยีได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์ และฟินเทคหรือไฟแนนเชียล เทคโนโลยี (Financial Technology) จะมีบทบาทกับคนไทยยิ่งขึ้น ฟินเทคแบบเบสิกที่ทุกคนคุ้นเคยและใช้อยู่ คือ เอทีเอ็ม โมบายแบงก์กิ้ง ตู้กดเติมเงินโทรศัพท์มือถือ การซื้อขายหุ้นผ่านออนไลน์ เป็นต้น ซึ่งทุกอย่างคือการใช้บริการทางการเงินด้วยตัวเอง ไม่ต้องอาศัยมนุษย์เป็นผู้ให้บริการธุรกรรมอีกต่อไป อันเป็นจุดประสงค์หลักในการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินขึ้นมา เป็นการประยุกต์เทคโนโลยีดิจิทัลสู่การทำธุรกิจและธุรกรรมทางการเงิน เป็นการร่วมมือกันระหว่างผู้ประกอบการ และสถาบันการเงินที่เอื้อประโยชน์กัน ทั้งในด้านอำนวยความสะดวก การเพิ่มกิจกรรมทางการเงิน เพียงแค่อาศัยระบบการสื่อสารที่รวดเร็วขึ้น
                   จุดเด่นของฟินเทค คือ ความง่ายในการใช้บริการ ไม่ซับซ้อนและผูกขาด สร้างอิสระในการทำธุรกรรมทางการเงินแก่ผู้บริโภค ที่สะดวก รวดเร็ว และทุกที่ทุกเวลา จึงทำให้ได้รับความนิยมทั่วโลกกลายเป็นกระแสและแพร่หลายอย่างรวดเร็ว มูลค่าการตลาดฟินเทคทั่วโลก ปี ๒๕๕๗ อยู่ที่ ๒.๕-๓ หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าจะเพิ่มเป็น ๔ หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในปี ๒๕๖๓ หรือเติบโต ๑๓๐ เปอร์เซ็นต์ ฟินเทคมีความหลากหลาย กลุ่มผู้ประกอบการหน้าใหม่ (สตาร์ทอัพ) เข้ามาจัดตั้งบริษัทเพื่อพัฒนาธุรกิจ ในประเทศไทยธุรกรรมนี้เพิ่งเริ่มต้น จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์มีผู้ประกอบการด้านฟินเทคจดทะเบียนประมาณ ๔๐ บริษัทซึ่งนับว่ายังน้อย แต่มีโอกาสจะเติบโตเร็ว มีบทบาทและส่งผลกระทบกับอีกหลาย ๆ ธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจธนาคาร สถาบันการเงิน และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง
                   จะเห็นได้ว่า ทุกธนาคารต่างให้ความสนใจกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ และเริ่มปรับตัวเพื่อให้บริการทันกับความต้องการของลูกค้า ด้วยการทุ่มงบประมาณวิจัยและพัฒนาให้มากขึ้น ข้อดีของฟินเทคคือ ทำให้อุตสาหกรรมเป็นการแข่งขันที่เน้นด้านการบริการมากกว่าจะเน้นการแข่งขันด้านราคาหรือตลาด นอกจากนี้ บุคลากรด้านฟินเทคเป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมาก
                   ฟินเทค (Financial Technology) ถือเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งของธนาคาร รวมทั้งผู้กำกับดูแลด้วย เพราะเป็นนวัตกรรมที่ใหม่มาก กฎหมายการเงินต้องพัฒนาให้เท่าทัน หรือครอบคลุมการเปลี่ยนแปลง แต่ขณะเดียวกันต้องไม่ปิดกั้นนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้น เป็นการประยุกต์เทคโนโลยีดิจิทัลเข้าสู่การทำธุรกิจและธุรกรรมทางการเงิน เป็นความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการและสถาบันการเงินที่เอื้อประโยชน์กัน ทั้งในด้านการอำนวยความสะดวกให้แก่การทำธุรกรรมทางการเงิน การเพิ่มกิจกรรมทางการเงิน กับการซื้อขายสินค้า เพียงแค่อาศัยระบบการสื่อสารที่รวดเร็วขึ้น.              
                   
โดย   พรรณี ตั้งใจสถาปัตย์
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก