เรื่อง เอกชนประหยัดน้ำ ๓๐ เปอร์เซ็นต้านภัยแล้ง
ประเทศไทยในปีนี้ นอกจากต้องเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจที่สาหัสแล้ว ยังต้องเผชิญกับวิกฤตภัยแล้งที่ประกาศออกมาแล้วว่าหนักหนาสาหัสที่สุดในรอบ ๒๐ ปี และสะท้อนถึงการบริหารจัดการของหน่วยงานที่รับผิดชอบ ทุกภาคส่วนต่างได้รับความเดือดร้อน ล่าสุด กรมชลประทานรายงานน้ำใน ๔ เขื่อนหลัก ประกอบด้วย เขื่อนภูมิพล จ.ตาก, เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์, เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก มีปริมาณน้ำรวมกัน ๓,๔๘๙ ล้านลูกบาศก์เมตรคิดเป็น ๑๙ เปอร์เซ็นต์ของความจุระดับปกติ และต่ำลงเกือบครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับต้นปี ๒๕๕๘ ที่อยู่ในระดับ ๖,๓๐๐ ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นสถานการณ์แล้งที่รุนแรงใกล้เคียงกับปี ๒๕๓๗
ปี ๒๕๕๔ เกิดวิกฤตน้ำท่วมสาหัส ย่างเข้าปี ๒๕๕๕ รัฐบาลสั่งเร่งระบายน้ำออกจากเขื่อนอย่างหนัก ทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนต่ำผิดปกติ และปี ๒๕๕๕ ปริมาณน้ำฝนต่ำกว่าที่คาดทำให้สถานการณ์บานปลายจนทุกวันนี้ ตั้งแต่ต้นปีภาครัฐและเอกชนได้โหมระดมรณรงค์ให้ช่วยกันประหยัดน้ำ เนื่องจากน้ำถือเป็นปัจจัยสำคัญในการประกอบธุรกิจ โดยเฉพาะด้านการผลิต จากสถิติข้อมูลการใช้น้ำภาคอุตสาหกรรมคิดเป็นสัดส่วนประมาณ ๓.๘ เปอร์เซ็นต์ของสัดส่วนการใช้น้ำทั้งหมดของประเทศ ขณะที่ภาคการเกษตรใช้น้ำ ๗๕.๕ เปอร์เซ็นต์ การใช้น้ำเพื่ออุปโภคบริโภค ๓.๙ เปอร์เซ็นต์ เพื่อรักษานิเวศ ๑๖.๗ เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับโครงสร้างระบบเศรษฐกิจ จะพบว่าไทยพึ่งพารายได้จากอุตสาหกรรมคิดเป็นสัดส่วนถึง ๓๙.๖ เปอร์เซ็นต์ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ พึ่งพาภาคเกษตร ๘.๘ เปอร์เซ็นต์ เห็นได้ว่าภาคอุตสาหกรรมมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ หากเกิดปัญหาภัยแล้งจะยิ่งกระทบไปถึงระดับรากหญ้า
วิกฤตภัยแล้งครั้งนี้ นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ถือเป็นปัญหาที่ฉุดความเชื่อมั่นของภาคเอกชน หากเกิดปัญหาแล้วจะกระทบกับภาคเกษตรซึ่งเป็นกำลังซื้อส่วนใหญ่ของประเทศ จึงต้องการให้ภาครัฐเร่งบริหารจัดการน้ำอย่างเร่งด่วน ซึ่งภาคเอกชนได้วางแผนรับมือเต็มที่ ทั้งนี้ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน ๓ สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และหอการค้าและสมาคมไทย ได้ออกโครงการ “กกร.รวมใจใช้น้ำประหยัด ร่วมขจัดภัยแล้ง” รณรงค์ให้เอกชนร่วมกันประหยัดการใช้น้ำ ๓๐ เปอร์เซ็นต์ เริ่มตั้งแต่กระบวนการผลิตการรีไซเคิลน้ำกลับมาใช้ใหม่ การนำนวัตกรรมมาปรับเปลี่ยนเพื่อใช้น้ำลดลง รวมทั้งการช่วยเหลือแจกจ่ายน้ำให้แก่ประชาชนในพื้นที่
ภาคเอกชนได้ระดมสรรพกำลังร่วมฝ่าวิกฤตภัยแล้งครั้งนี้ แต่ทั้งหมดถือเป็นมาตรการระยะสั้น สิ่งที่ทุกภาคส่วนทั้งภาคประชาชน เอกชน เกษตรกรต้องการคือมาตรการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนที่จะไม่ให้คนไทยต้องพบกับผลกระทบภัยแล้งซ้ำซากอีกต่อไป.
โดย พรรณี ตั้งใจสถาปัตย์
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|