เรื่อง เอสเคิร์ฟ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
นายตีรณ พงศ์มฆพัฒน์ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า เอสเคิร์ฟมีความหมายหลายอย่าง เป็นภาษาวิชาการ อยู่ที่ว่าผู้พูดต้องการสื่อถึงอะไร เป็นการเติบโตแบบใหม่ที่จะเกิดขึ้น เศรษฐกิจไทยช่วงนี้ขาดปัจจัยกระตุ้นให้ภาคธุรกิจเติบโตในระยะยาว ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่มีทรัพยากรมากกว่าไทย ทั้งบุคลากร ต้นทุนค่าแรง สิ่งแวดล้อม และทรัพยากรธรรมชาติ ดังนั้น ไทยจะอาศัยการผลิตที่ใช้แรงงานหรือผลิตสินค้าราคาถูกไม่ได้ การใส่เงินลงสู่ระบบแบบให้เปล่าไม่ช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตแบบยั่งยืน
การผลิตของไทยช่วงนี้ ถือว่าติดเพดานขาขึ้นและกำลังปรับลดลง เพราะประสิทธิภาพการผลิตลด ต้นทุนค่าจ้างเพิ่ม ไม่มีปัจจัยใหม่ผลักดัน แต่ที่ภาครัฐกำลังดำเนินการคือ ลดภาษี ก่อหนี้ภาครัฐ เพิ่มรายจ่าย ทั้งหมดเป็นมาตรการระยะสั้น สิ่งที่ไทยต้องการสำหรับ “เอสเคิร์ฟ” คือ สร้างความรู้ให้ประชาชน แรงงานในตลาด การเสริมสร้างเทคโนโลยีการผลิตให้ทันสมัย สังคมขาดความรู้ คนไทยอ่านหนังสือน้อย การปฏิรูปการศึกษาให้ความสำคัญกับตัวคนมากกว่าระบบ การผลักดันธุรกิจเกิดใหม่หรือสตาร์ตอัพผู้ประกอบการจำเป็นต้องมีวิสัยทัศน์ มีความรู้ ความสามารถที่จะดำเนินธุรกิจ การจะพัฒนาธุรกิจมีความเสี่ยงสูงและเงินทุนไม่ใช่ปัจจัยหลักที่ทำให้ประสบความสำเร็จ
นายเกียรติอนันต์ ล้วนแก้ว คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าวว่า “เอสเคิร์ฟ” เป็นแนวคิดบริหารธุรกิจเกี่ยวกับการสร้างนวัตกรรมการผลิต มีช่วงอายุของแต่ละสินค้าหรือแต่ละอุตสาหกรรม เช่น ยุคของเครื่องจักรไอน้ำถูกแทนที่ด้วยเอสเคิร์ฟใหม่ คือ เครื่องดีเซล จากแนวคิดนี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นำมาใช้เรียกการพัฒนาธุรกิจเดิมและธุรกิจใหม่ของไทย ซึ่งนโยบายของรัฐพยายามทำให้เกิด ๑๐ อุตสาหกรรมที่ต้องเร่งผลักดันให้เป็นเอสเคิร์ฟใหม่ และให้เอสเคิร์ฟเก่าพัฒนาต่อยอด ๕ อุตสาหกรรมเดิม คือ อุตสาหกรรมรถยนต์สมัยใหม่, อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้เทคโนโลยีก้าวหน้า, การท่องเที่ยวใหม่ จากเดิมเน้นกลุ่มท่องเที่ยวทั่วไปเป็นเน้นกลุ่มกำลังซื้อสูงและสุขภาพ, เทคโนโลยีชีวภาพ เพิ่มวิธีการผลิต มีนวัตกรรมรองรับ, แปรรูปอาหาร ที่คิดถึงความต้องการในอนาคต หากรัฐหนุนให้อุตสาหกรรมดังกล่าวดีขึ้น จะรองรับการเติบโตในช่วง ๕-๑๐ ปีได้ดี ในอนาคตประชากรภูมิภาคจะเป็นสังคมผู้สูงอายุ ขณะที่ ๕ อุตสาหกรรมใหม่ คือ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์, การบินและโลจิสติกส์, เชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ, ดิจิตอล และอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร หากเกิดได้จริงจะช่วยให้หลุดพ้นจากกับดักเศรษฐกิจที่มีอยู่ คาดว่าไทยจะทำได้จริงในช่วง ๔-๕ ปีหลังจากนี้
ปัจจุบันไทยยังอยู่ในเอสเคิร์ฟเก่า อยู่ในก้นของตัวเอสรอวันทะยานขึ้น การจะทำให้เกิดเอสเคิร์ฟตัวใหม่ต้องอาศัยการลงทุนใหม่ แต่ช่วง ๒-๓ ปีที่ผ่านมา บรรยากาศไม่เอื้อให้เอกชนลงทุนใหม่ หากทำให้อุตสาหกรรมใหม่เกิดได้จริงจะหมดกังวลว่ากำลังซื้อในประเทศและการส่งออกจะเป็นอุปสรรค เพราะไทยจะผลิตสินค้าตามกระแสโลกหลุดพ้นจากกับดักเศรษฐกิจที่มีอยู่ และหวังว่าปีนี้จะเป็นปีแห่งการลงทุนเพื่อนำไปสู่เอสเคิร์ฟใหม่ และจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยไปข้างหน้า.
โดย พรรณี ตั้งใจสถาปัตย์
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|