เรื่อง การจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษสะเดา
จังหวัดสงขลา ได้ตั้งคณะทำงานเคลียร์ผู้บุกรุกที่ยึดพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษสะเดา หลังจากที่กรมธนารักษ์ไม่สามารถส่งมอบพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสะเดา เนื้อที่ ๑,๒๐๐ ไร่ บ้านด่านนอก ต.สำนักขาม อ.สะเดา ให้กับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เข้าไปพัฒนาได้ เนื่องจากมีประชาชนไม่ยอมย้ายออกจากพื้นที่ และอาจส่งผลกระทบให้แผนพัฒนาล่าช้าออกไปอย่างน้อย ๖ เดือน หรือ ๑ ปี
นายอนุชิต ตระกูลมุทุตา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า คณะทำงานลงไปทำความเข้าใจซึ่งจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย เพราะมีผู้บุกรุกทั้งสิ้น ๒๓๙ ราย ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ดินที่ทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ยึดมาและส่งมอบให้กับกรมธนารักษ์ ปัญหาขณะนี้คือ ต้องนำผู้บุกรุกให้ออกจากพื้นที่ก่อนที่ กนอ.จะเข้ามาพัฒนาพื้นที่ ซึ่งจะไม่มีการเยียวยาใด ๆ เนื่องจากคนเหล่านี้เข้าไปอยู่โดยผิดกฎหมาย
ด้านนายสมบูรณ์ พฤษานุศักดิ์ อดีตรองประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา กล่าวว่า การประกาศพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมในเขตเศรษฐกิจพิเศษสะเดา ประมาณ ๑,๐๐๐ กว่าไร่ และจุดที่ประกาศพัฒนาเป็นโซนพัฒนาที่เป็นชุมชนเมืองอยู่ก่อนแล้ว นอกจากนี้ จุดประสงค์การประกาศเขตเศรษฐกิจพิเศษต้องการให้เกิดการลงทุน และเกิดการจ้างงานในพื้นที่ แต่ความเป็นจริงจังหวัดสงขลาประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน ต้องนำเข้าแรงงานต่างด้าว ขณะที่แรงงานในพื้นที่ไม่นิยมทำงานในโรงงาน กลายเป็นการว่างงานแฝง ไม่ใช่การว่างงานเพราะมีงานให้ แต่แรงงานไม่ทำ เป้าหมายของรัฐบาลในการสร้างงานให้กับพื้นที่จึงไม่เกิดเพราะแรงงานในพื้นที่ไม่ทำ กลายเป็นสร้างงานให้กับแรงงานต่างด้าว เช่น แรงงานเมียนมา และแรงงานมาเลเซียจะไม่ทำงานในเขตเศรษฐกิจพิเศษสะเดา เพราะค่าจ้างในมาเลเซียสูงกว่าไทยมาก ปัจจุบันจึงมีแต่แรงงานไทยไปขายแรงงานในมาเลเซีย และการประกาศเขตเศรษฐกิจพิเศษสะเดาเพื่อดึงนักลงทุนจากส่วนกลางมา นายสมบูรณ์ยังกล่าวต่อไปว่า หากต้องการจูงใจให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษสะเดา จะต้องก่อสร้างท่าเทียบเรือน้ำลึกสงขลาแห่งที่ ๒ ให้เกิดขึ้นก่อน คล้ายการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และเมืองพัทยา เมื่อการลงทุนเกิดขึ้นมีการจ้างงาน เงินสะพัด เกิดการใช้จ่าย จะส่งผลต่อไปยังการท่องเที่ยว ซึ่งสงขลามีแหล่งท่องเที่ยวคล้ายกับเมืองพัทยาคือ เมืองหาดใหญ่
หากจังหวัดสงขลาเดินตามโมเดลนี้ การลงทุน การท่องเที่ยวจะเกิดขึ้นตามมา เนื่องจากมีโครงสร้างพื้นฐานจำเป็นสำหรับการลงทุนไว้รองรับ ซึ่งท่าเรือน้ำลึกสงขลาแห่งที่ ๒ จะมีขนาดใหญ่เทียบเท่ากับท่าเรือปีนังและท่าเรือสิงคโปร์.
โดย พรรณี ตั้งใจสถาปัตย์
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|