เรื่อง โครงการย่อยช่วยเหลือเกษตรกรด้านการผลิต พัฒนาสินค้าโอท็อป
จากรายงานในภาพรวม และการศึกษาจากข้อมูลเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจประเทศเพื่อนบ้าน พบว่า ไทยอยู่ในเกณฑ์สามารถประคับประคองสถานการณ์ไปได้ แต่ในอนาคตจำเป็นต้องสร้างความเข้มแข็งให้ภาคการผลิตแก่เกษตรกร ในส่วนของเอสเอ็มอีต้องเน้นการสร้างนวัตกรรม สำหรับการช่วยเหลือเกษตรกร มีมาตรการเพิ่มเติมโดยเฉพาะการสร้างความเข้มแข็ง สร้างผู้ประกอบการรายใหม่ เป็นมาตรการทางการเงิน การคลังที่สามารถช่วยได้ หลายจังหวัดในหลายพื้นที่มีโครงการ เช่น การทำเรื่องข้าว ทั้งโรงสี การแปรรูป ลานตากมัน การปรับปรุงเรื่องเมล็ดพันธุ์ แม้กระทั่งเครื่องมือการเกษตร การส่งออกข้าวแม้ได้ราคาต่ำ แต่เป็นเพราะราคาตลาดโลกลดลง
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ อาทิ สนับสนุนการทำบัญชีเดียว สนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีระดับไมโคร รวมถึงมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งและเพิ่มความสามารถภาคเกษตร รวมวงเงินกว่า ๑ แสนล้านบาท
มาตรการแรก สนับสนุนบัญชีเดียว ส่งเสริมให้ผู้ที่เข้าบัญชีเดียวนำค่าใช้จ่ายในการจ้างนักเรียนนักศึกษาซึ่งเรียนวิชาด้านบัญชีทั้งอาชีวศึกษาและอุดมศึกษา โดยผู้ประกอบการสามารถนำค่าจ้างดังกล่าวมาหักภาษีได้ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ การดำเนินการดังกล่าวนั้นจะช่วยให้สามารถเข้าสู่ระบบบัญชีเดียวได้สะดวกขึ้น นอกจากผู้ประกอบการได้ประโยชน์แล้ว นักเรียน นักศึกษายังจะมีรายได้และได้ประสบการณ์การฝึกงาน ซึ่งสอดคล้องกับกระทรวงศึกษาธิการที่ต้องการให้นักเรียนไปฝึกงาน แทนที่จะเรียนแต่ในห้องเรียนเพียงอย่างเดียว
มาตรการที่สอง ค้ำประกันสินเชื่อผู้ประกอบการรายย่อย บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ให้กับเอสเอ็มอีรายย่อย ที่มีรายได้ต่ำกว่า ๕ ล้านบาท
มาตรการที่สาม ช่วยเกษตรกรที่ประสบปัญหาภัยแล้ง และเพิ่มขีดความสามารถแก่ภาคเกษตร ประกอบด้วย ๓ มาตรการย่อย รวมเป็นเงิน ๙๓,๐๐๐ ล้านบาท
-มาตรการย่อยแรก เงินกู้ฉุกเฉินให้ลูกค้า ธ.ก.ส.ที่ประสบปัญหาภัยแล้ง วงเงิน ๖,๐๐๐ ล้านบาท ให้กู้ไม่เกิน ๑๒,๐๐๐ บาทต่อราย คาดว่าลูกค้าได้ประโยชน์ ๕ แสนราย ปลอดดอกเบี้ย ๐ เปอร์เซ็นต์นาน ๖ เดือน
-มาตรการย่อยที่ ๒ เป็นโครงการ ๑ ตำบล ๑ เอสเอ็มอีเกษตร รัฐบาลได้ช่วยเหลือเอสเอ็มอีในกลุ่มอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรม ล่าสุดนอกจากปลูกพืชแล้ว อาจตั้งเป็นบริษัทค้าสินค้าเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า โดยหลักการคือ การรวมกลุ่มเพื่อสร้างเอสเอ็มอีของตำบล
-มาตรการย่อยที่ ๓ โครงการปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิตของเกษตรกร โดยจะให้เกษตรกรรวมกลุ่ม ให้กู้กลุ่มละไม่เกิน ๓ ล้านบาท วงเงินทั้งหมด ๑๕,๐๐๐ ล้านบาท ดอกเบี้ย ๐.๐๑ เปอร์เซ็นต์ คาดว่าจะมีเกษตรกรร่วมโครงการ ๑ แสนราย รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยรวมทั้งสิ้น ๕๐๐ กว่าล้านบาท
คณะรัฐมนตรีรายงานภาวะเศรษฐกิจไทยว่า สามารถประคองตัวรอด เม็ดเงินเริ่มไหลสู่ส่วนภูมิภาค และคณะรัฐมนตรีอนุมัติ ๓ โครงการหลักเม็ดเงิน ๑ แสนล้านบาท โดยงานหลักอยู่ที่ ๓ โครงการย่อยช่วยเหลือเกษตรกรเพื่อปรับปรุงและเปลี่ยนรูปแบบการผลิต การพัฒนาสินค้าโอท็อประดับตำบล.
โดย พรรณี ตั้งใจสถาปัตย์
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|