เรื่อง การเพิ่มภาษีผลิตภัณฑ์ที่เป็นภัยต่อสุขภาพ
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ให้รับข้อเสนอของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในเรื่องระบบบริหารจัดการและการเงินการคลังด้านสุขภาพ โดยเฉพาะแนวทางการเพิ่มภาษีผลิตภัณฑ์ที่เป็นภัยต่อสุขภาพ เนื่องจากเป็นหนึ่งในเรื่องที่ต้องปฏิรูป แต่ปัจจุบันยังไม่เป็นรูปธรรม
กระทรวงการคลังเคยเสนอแผนปฏิรูปภาษีให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณาแล้ว ซึ่งการเก็บภาษีเครื่องดื่มเป็นหนึ่งในแผนปฏิรูป ทั้งการเสนอจัดเก็บภาษีชาเขียว กาแฟกระป๋องที่มีส่วนผสมของกาเฟอีนและน้ำตาล น้ำผลไม้กระป๋อง ขณะเดียวกันกระทรวงการคลังหารือกับ สธ.กรณีจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมจากน้ำตาลสูง แต่ก่อนจัดเก็บภาษี ต้องพิสูจน์ได้ว่าการบริโภคน้ำตาลเป็นโทษจริง สามารถหยิบผลการศึกษามาเสนอให้ฝ่ายนโยบายตัดสินใจใช้มาตรการภาษีผลักดันให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคได้ทันที นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ยังได้สั่งการให้กรมสรรพสามิตจัดทำแผนการเก็บภาษีใน ๕ ปีข้างหน้า เสนอให้ ครม.พิจารณาและเห็นชอบ
กรมสรรพสามิตมีความยืดหยุ่นการจัดเก็บรายได้ ทั้งการเก็บภาษีบาป ภาษีเพื่อสิ่งแวดล้อม ภาษีเพื่อดูแลสังคม รวมทั้งสินค้าบางประเภทที่เป็นพิษกับสุขภาพ โดยเฉพาะกรณีของเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล และหากมีข้อมูลยืนยันทางการแพทย์ที่แน่ชัดว่าเป็นพิษกับสุขภาพจริง จะเสนอรัฐบาลเก็บภาษีดังกล่าวทันที อย่างไรก็ตาม นอกจากการเก็บภาษีเครื่องดื่มที่ทำลายสุขภาพแล้ว ยังมีเรื่องระบบบริหารจัดการและการเงินการคลังด้านสุขภาพ โดยเสนอว่า สธ.ควรมีบทบาทหน้าที่เป็นผู้กำกับดูแลสุขภาพ หรือเป็นผู้ให้บริการ และควรบูรณาการข้อมูลสารสนเทศประกันสุขภาพและการเบิกจ่ายงบประมาณเข้ากับระบบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร จัดตั้งหน่วยงานกลางบริหารจัดการกองทุนสุขภาพ แต่ไม่ควรรวมกองทุน
การปฏิรูประบบบริการสาธารณสุขต้องกำหนดกรอบให้ชัดเจน ควรเพิ่มจำนวนแพทย์ และคำนึงถึงการย้ายถิ่นฐานของผู้ประกันตนด้วย ส่วนการปฏิรูประบบการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเข้าใจบทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการสาธารณสุขระดับจังหวัด ชุมชน และท้องถิ่น โดยกำหนดทิศทางและเป้าหมายการทำงานร่วมกัน.
โดย พรรณี ตั้งใจสถาปัตย์
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|