เรื่อง : การประหยัดพลังงาน
ปี 2559 การใช้พลังงานของประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อาทิ น้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล และก๊าซแอลพีจี ทำให้ภาครัฐมีความวิตกกังวล กระทรวงพลังงานในฐานะผู้รับผิดชอบภารกิจหลักในการบริหารจัดการพลังงานของประเทศให้มีใช้อย่างเพียงพอและ มีความยั่งยืน ทั้งภาคเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และสังคม จึงได้มีการดำเนินการภายใต้แผนหลัก 3 แผน คือ 1.แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า 2. แผนอนุรักษ์พลังงาน และ 3. แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความมั่นคงและความสมดุล ด้านพลังงานของประเทศ กระทรวงพลังงาน จึงได้วางกรอบแผนพลังงานในภาพรวมใหม่ โดยยึดหลักการบูรณาการแผนงาน และระยะเวลาดำเนินการให้สอดคล้องกัน จำนวน 5 แผนประกอบด้วย 1. แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย หรือ PDP 2015 ซึ่งมีเป้าหมายในด้านความมั่นคง และในด้านเศรษฐกิจได้กำหนดเป้าหมายให้มีค่าไฟฟ้าที่เหมาะสม สะท้อนความเป็นจริง 2. ลดการใช้ก๊าซเพื่อผลิตไฟฟ้าลงเหลือไม่เกิน 40% ในปี 2579 3. เพิ่มสัดส่วนของพลังงานทดแทนรวมถึงเชื้อเพลิงที่ใช้เทคโนโลยีสะอาด 4. ดำเนินการรับซื้อไฟฟ้า จากประเทศเพื่อนบ้าน และ 5. กำหนดกำลังการผลิตไฟฟ้าสำรองไม่ต่ำกว่า 15% ของปริมาณความต้องการไฟฟ้าสูงสุด และเพื่อให้เกิดการลดใช้พลังงาน และการใช้พลังงาน อย่างมีประสิทธิภาพ กระทรวงพลังงานจึงทำการรณรงค์ให้ความรู้ความเข้าใจการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพและมีฉลากเบอร์ 5 กำกับ รวมทั้งส่งเสริมการใช้อุปกรณ์การใช้ไฟฟ้า 2 ประเภท ได้แก่ 1. การใช้หลอดไฟ LED ฉลากเบอร์ 5 ที่ช่วยประหยัดไฟฟ้าได้ถึง 85% เมื่อเปรียบเทียบกับหลอดไส้ขนาดเท่ากันและมีอายุการใช้งานนานกว่า 15,000 ชั่วโมง 2.การใช้เครื่องปรับอากาศฉลากเบอร์ 5 ที่ผ่านการทดสอบแบบ SEER ประหยัดไฟฟ้าได้ถึง 30% เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องปรับอากาศแบบ Fixed Speed
การรณรงค์ประหยัดพลังงาน ต้องสร้างจิตสำนึกและปลูกฝังให้การประหยัดพลังงานและรู้จักใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ วิธีประหยัดพลังงานนี้ อาจเป็นจุดเริ่มต้นให้คนไทยรู้จักคุณค่าของพลังงาน รู้จักวิธีใช้พลังงานอย่างระมัดระวัง ไม่ให้รั่วไหลสูญเปล่าอีกต่อไป ด้วยวิธีปฏิบัติอย่างง่าย ทำได้ทันที และที่ดีที่สุดก็คือการปฏิเสธให้เคยชินเป็นนิสัย เป็นกิจวัตร เพื่อชาติของเรา จะไม่ต้องพบกับคำว่าวิกฤติพลังงานอีกต่อไป
โดย ณัฐชยา เหมือนสมหวัง
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|