[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by ATOMYMAXSITE 2.5
เมนูหลัก
link PRD
e-Learning


สำนักนายกรัฐมนตรี
นโยบายรัฐบาล
poll

   คุณคิดว่าเวปนี้เป็นอย่างไร


  1. ดีมาก
  2. ดี
  3. ปานกลาง
  4. แย่
  5. แย่มาก


linkweb







qrcodemaker
บันทึกประจำวัน

 
  

  หมวดหมู่ : บทความ
เรื่อง : ท้องผูก...แก้ได้ (ด้านสุขภาพ)
โดย : สมจิตร
เข้าชม : 2211
ศุกร์์ ที่ 13 เดือน พฤษภาคม พ.ศ.2559 ปักหมุดและแบ่งปัน
     

เรื่อง  ท้องผูก...แก้ได้

                   ท้องผูก คือ อาการที่ลำไส้ไม่สามารถขับถ่ายอุจจาระได้ง่ายและสม่ำเสมอ โดยมีความถี่ของการขับถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ รวมถึงก้อนอุจจาระมีลักษณะแข็ง แห้ง และยากต่อการขับถ่ายออกมา และภายหลังอุจจาระแล้วยังมีความรู้สึกว่า    อุจจาระไม่สุด ทั้งนี้ อาการท้องผูกพบบ่อยมากประมาณ 12 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งโลก   พบได้ในทุกอายุ ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้สูงอายุ แต่พบได้บ่อยกว่าในเด็ก เนื่องจากกล้ามเนื้อ   เพื่อการขับถ่ายในเด็กยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ และในผู้สูงอายุ เนื่องจากกล้ามเนื้อ   เพื่อการขับถ่ายเสื่อมตามอายุ รวมทั้งผู้สูงอายุยังขาดการเคลื่อนไหวและมักมีโรคประจำตัว    ที่ส่งผลถึงการทำงานของกล้ามเนื้อเพื่อการขับถ่าย และผู้หญิงพบได้บ่อยกว่าผู้ชาย    ซึ่งอาจเป็นผลจากฮอร์โมนเพศที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ อาการท้องผูกสามารถแก้ได้ง่าย ๆ   ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
                  
                   1. ทานอาหารที่มีกากใยมาก ๆ เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต ถั่ว ฟักทอง    ลูกพรุน ข้าวโพด แอปเปิล ฝรั่ง มะละกอ เป็นต้น เพื่อจะช่วยเพิ่มเส้นใยการขับถ่าย          โดยอาหารที่มีกากมากจะต้านทานการย่อยของน้ำย่อยที่จะไปดูดน้ำภายในลำไส้ใหญ่   ส่งผลให้ลำไส้บีบตัวขับถ่ายอุจจาระได้รวดเร็ว แนะนำให้ทานใยอาหาร 20 - 30 กรัมต่อวัน
                   2. หากรู้สึกปวดอุจจาระให้เข้าห้องน้ำทันที อย่ากลั้นไว้ เพราะยิ่งรอนาน   จะเพิ่มอาการท้องผูกให้หนักยิ่งขึ้น
                    3. ฝึกการเข้าห้องน้ำขับถ่ายทุกเช้าให้เป็นกิจวัตร โดยควรนั่งถ่ายอย่าง    ผ่อนคลายประมาณ 10 นาที ไม่ควรเร่งรีบเกินไป
                   4. ดื่มน้ำมาก ๆ เพราะน้ำจะไปช่วยให้กากอาหารอ่อนตัวลง ทำให้การขับถ่าย  ง่ายขึ้น และยังช่วยให้ผิวพรรณดีอีกด้วย
                   5. งดดื่มน้ำชา กาแฟ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้มีสาร   ที่ทำให้ลำไส้บีบตัวน้อยลง แต่จะไปกระตุ้นให้ปัสสาวะบ่อย ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ ส่งผลให้อาการท้องผูกตามมา
                   6. ยาระบาย หรือยาถ่าย สามารถใช้ได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ไม่ควรใช้   เป็นระยะเวลานาน ๆ เพราะไม่ได้ช่วยรักษาอาการท้องผูกให้หายขาด แต่กลับยิ่งทำให้   ร่างกายไม่ถูกกระตุ้นให้ขับถ่ายตามเวลาที่ควรจะเป็น เพราะลำไส้จะชินต่อยากระตุ้นพวกนี้ หากมีอาการท้องผูกขึ้นมาอีกก็ต้องใช้ยาแรงขึ้นเรื่อย ๆ
 
                   นอกจากวิธีที่กล่าวไปข้างต้นนี้แล้ว ควรลดความเครียด ทำจิตใจให้เบิกบาน แจ่มใส และควรหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวและ   ทำงานได้ดีขึ้น เมื่ออวัยวะต่าง ๆ ทำงานได้ดีขึ้น ก็จะไปส่งผลให้ลำไส้ขยับเคลื่อนไหว   ได้ดีขึ้นตามไปด้วย

โดย ปุญยาวีร์  นิตย์สุข
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก





Not Rated stars เฉลี่ย : Not Rated จาก 0 ครั้ง.

บทความ5 อันดับล่าสุด

      สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ เชิญชวนเด็ก และเยาวชน ในจังหวัดเพชรบูรณ์ สมัครเข้าร่วมการประกวดขับร้องเพลง.. เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ ๕ ธันวาคม ๒๕๖๕ 1/ธ.ค./2565
      เตือนกันทุกหน้าหนาว‼️ อย่ากินเหล้าคลายหนาว ....อันตรายถึงตาย 20/พ.ย./2565
      ฝนตก มีน้ำขัง \"ระวังลื่นล้ม\" !! 18/ต.ค../2565
      อัปเดต‼ มอเตอร์เวย์ 8 สายทั่วไทย 24/ก.ย./2565
      สำนักงานยุวกาชาด และอาสาสมัครกาชาด สภากาชาดไทย ขอเชิญเยาวชน อายุ 18-30 ปี ที่มีใจรักในงานจิตอาสา มาเป็นตัวแทนเยาวชนทำงานกับกาชาด ในโครงการ”สรรหากุลบุตร และกุลธิดากาชาด ประจำปี 2565” สมัครทางออนไลน์หรือสแกน QR Code https://forms.gle/NWRXmTP6tSpaCx5P7 รั 16/ก.ย./2565


Based on : Maxsite1.10 Modified to ATOMYMAXSITE 2.5


Based on : Maxsite1.10 Modified to ATOMYMAXSITE 2.5