เรื่อง  พาณิชย์มั่นใจ เศรษฐกิจไทยฟื้นแน่

                   นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผยว่า ในโอกาสเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกาที่ผ่านมา ได้เข้าร่วมประชุมคณะมนตรีภายใต้กรอบความตกลงการค้าและการลงทุนไทย-สหรัฐ ระดับรัฐมนตรี (Trade and Investment Framework Agreement : TIFA) ได้ประชุมหารือกับผู้แทนการค้าสหรัฐในรอบ ๑๓ ปีนับตั้งแต่การประชุมระดับรัฐมนตรีเมื่อปี ๒๕๔๖ โดยได้หารือแนวทางการขยายการค้าการลงทุน และการแก้ไขอุปสรรคทางการค้าระหว่างกัน เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีต่อการสานต่อความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐ กว่า ๑๘๓ ปี
                   การหารือครั้งนี้ ไทยได้ตอกย้ำความคืบหน้าการดำเนินการตาม Roadmap ของรัฐบาล เพื่อให้ภาคเอกชนสหรัฐมั่นใจต่อเสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจของไทย และหารือในประเด็นทางเศรษฐกิจยุคใหม่ อาทิ ทรัพย์สินทางปัญญา พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) ธุรกิจการเงินเพื่อรองรับการเป็นเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย สหรัฐเห็นด้วยกับแนวทางปฏิรูปของไทย และชื่นชมการเข้าเป็นสมาชิกความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกทางการค้าของไทย ภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อภาคธุรกิจในระดับสากล ภายหลังการหารือในระดับนโยบายทั้งสองฝ่ายได้ประชุมในระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสต่อ โดยมี นายวินิจฉัย แจ่มแจ้ง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์เป็นหัวหน้าคณะ ได้หารือประเด็นที่จะเป็นประโยชน์ต่อการขยายการค้าการลงทุนของไทย โดยเฉพาะขอให้สหรัฐพิจารณาให้สิทธิ์ GSP แก่สินค้าหมวดเดินทาง และน้ำมะพร้าว ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่เป็นที่ต้องการและมีศักยภาพในตลาดสหรัฐ อีกทั้งหารือถึงความร่วมมือด้านทรัพย์สินทางปัญญา จัดการอบรมเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสิทธิบัตรของไทยเพื่อเร่งกระบวนการอนุมัติสิทธิบัตร จัดสัมมนาสร้างความรู้ความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับกฎหมายความปลอดภัยทางอาหารฉบับใหม่ของสหรัฐ หารือเตรียมจัดทำแผนปฏิบัติการด้านทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งจะเป็นเครื่องมือช่วยปลดล็อกไทยจากสถานะประเทศที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษในเรื่องการป้องกันและปราบปรามทรัพย์สินทางปัญญาในอนาคต การประชุมครั้งนี้ไทยขอให้สหรัฐสนับสนุนการถอดถอนไทยออกจากประเทศที่น่ากังวล (Primary Concern) เกี่ยวกับการควบคุมการค้างาช้างผิดกฎหมายในการประชุม CITES ครั้งต่อไปในเดือนกันยายน ๒๕๕๙ เนื่องจากไทยสามารถดำเนินการตามแผนปฏิบัติการงาช้างแห่งชาติได้อย่างสมบูรณ์
                   ภายหลังการประชุม ทั้งสองฝ่ายเร่งดำเนินการแก้ไขอุปสรรคทางการค้าให้สำเร็จเป็นรูปธรรมโดยเร็ว และให้มีการประชุมเต็มรูปแบบในลักษณะเดียวกันนี้ ปัจจุบันสหรัฐเป็นคู่ค้าอันดับที่ ๓ ของไทย มีมูลค่าการค้าระหว่างกัน ๓๗,๙๒๑.๕๑ ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่สหรัฐเป็นแหล่งนำเข้าอันดับที่ ๓ ของไทยเป็นมูลค่า ๑๓,๘๖๓.๕๙ ล้านเหรียญสหรัฐ.
 
โดย พรรณี ตั้งใจสถาปัตย์  
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก