เรื่อง รัฐบาลเร่งโค้งสุดท้าย ไอยูยู
แหล่งข่าวจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยว่า ในอีก ๒-๓ เดือนข้างหน้า สหภาพยุโรป (อียู) จะประเมินทบทวนมาตรการให้ใบเหลืองแก่ประเทศไทย และการแก้ไขระบบประมงของไทย ดังนั้น รัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้ ในช่วงเดือน พฤษภาคม ๒๕๕๙ คณะของกรมประมง และศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) จะเดินทางไปพบกับสหภาพยุโรป (อียู) เพื่อแสดงเจตนารมณ์ถึงความตั้งใจของรัฐบาลไทยในการแก้ไขปัญหาการประมงไร้การควบคุม (ไอยูยู) ซึ่งไปรายงานว่าทางการไทยแก้ปัญหามีความคืบหน้าในการบังคับใช้พระราชกฤษฎีกาประมงแห่งชาติ ปี ๒๕๕๘ โดยเริ่มบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ตั้งแต่วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘
นอกจากนี้ มีการออกใบอนุญาตการทำประมงในระบบใหม่ทุก ๒ ปี ตรวจสอบย้อนกลับแหล่งการทำประมง การติดตั้งระบบติดตามควบคุมเรือประมงพาณิชย์หรือระบบวีเอ็มเอส โดยมีโทษแรงขึ้นในคดีทำผิดใบอนุญาตใหม่ หรือไม่มีใบอนุญาต มีการปรับตั้งแต่ ๒ แสนบาทกับขนาดเรือ ๒๐-๓๐ ตันกรอส, เรือขนาด ๖๐-๑๕๐ ตันกรอส จะมีการปรับตั้งแต่ ๖ แสน-๖ ล้านบาท ถ้ามากกว่า ๑๕๐ ตันกรอส ปรับ ๖-๓๐ ล้านบาท หรือ ๕ เท่าของมูลค่าสัตว์น้ำบนเรือ ถ้าไม่มีเงินจ่ายค่าปรับขึ้นอยู่กับการตัดสินพิจารณาของศาล โดยมีโทษจำคุกหรือทั้งจำทั้งปรับ เมื่อทางอียูแจ้งว่าเราผิดไอยูยูอย่างไรจะแก้ไขปัญหาให้จนพอใจ ทั้งการออกกฎหมายขึ้นทะเบียนหรือประมง การห้ามซื้อขายกุ้งกับล้งเถื่อน ห้ามใช้แรงงานเด็ก เป็นต้น และมีการตรวจจับเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง
พล.ร.ท.จุมพล ลุมพิกานนท์ รองเสนาธิการทหารเรือ ผู้อำนวยการ ศปมผ. กล่าวว่า ทาง ศปมผ.จะเดินหน้าทำงานต่อไปเพื่อแก้ไขปัญหาประมงผิดกฎหมาย ไม่ว่าทางอียูจะประกาศให้ใบแดงหรือใบเหลืองแก่ไทย เพราะเป็นหน้าที่ที่ต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาประมงผิดกฎหมายให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการแก้ไขปัญหาไอยูยู ตั้งแต่การออกกฎหมาย การจัดระเบียบการทำประมงให้เป็นไปตามกฎหมาย เร่งรัดวางระบบต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับที่อียูต้องการเกี่ยวกับการตรวจสอบย้อนกลับข้อมูลสินค้าประมง ซึ่งทางอียูเองเปรียบเสมือนที่ปรึกษาของไทย ซึ่งไทยดำเนินการทุกอย่างตามที่อียูเสนอแนะ
หลังการยึดอำนาจของ คสช. สถานการณ์ภายในประเทศอาจดูสงบเรียบร้อย แต่แนวรบด้านต่างประเทศไม่เปลี่ยนแปลง ดูเหมือนจะยิ่งมีแรงบีบรัดหนักหน่วง กรณีล่าสุดคือ IUU หรือ illegal, unreported, unregulated หรือการทำประมงที่ “ผิดกฎหมาย ขาดรายงาน ไร้มาตรการควบคุม” ที่สหภาพยุโรปตั้งข้อหากับประเทศไทย ใบเหลืองใบแรกหนึ่งปียังไม่ถูกปลด อียูให้เหตุผลในการคงใบเหลืองไว้ว่าเพราะไทยขาด political will หรือเจตนารมณ์ทางการเมืองในการแก้ปัญหา มีปัญหาทั้งในระดับหน่วยงานปฏิบัติและมีข้อกังวลถึงสถานการณ์ทางการเมือง ภาพและข้อเท็จจริงทั้งหมดจะชัดเจนยิ่งขึ้นในการหารือระหว่างตัวแทนรัฐบาลไทยกับกรรมาธิการประมงอียูรอบต่อไปในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่ามีปัญหาในเรื่องมาตรฐานอยู่จริงและปฏิเสธไม่ได้อีกเช่นกันว่าปัญหาภาพพจน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาทางการเมืองส่งผลกระทบไม่มากก็น้อย.
โดย พรรณี ตั้งใจสถาปัตย์
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|