เรื่อง แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ตั้งเป้าว่า การพัฒนาเศรษฐกิจในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ ระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) ต้องผลักดันให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้เฉลี่ย ๕ เปอร์เซ็นต์/ปี แผนฯ ๑๒ มีความแตกต่างจากแผนพัฒนาฯ ทั้ง ๑๑ ฉบับที่ผ่านมา คือ เป็นแผนปฏิบัติการ (Action Plan) ที่ชัดเจนมากขึ้น ถือว่าเป็นแผนปฏิบัติการก้าวแรกของแผนยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๕๖-๒๕๗๙) ที่กำหนดไว้ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ลงประชามติไปเมื่อวันที่ ๗ สิงหาคมนี้
นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการ สศช. ระบุว่า แผนฯ ๑๒ ตั้งเป้าหมายด้านการพัฒนาเศรษฐกิจให้สอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติ โดยเศรษฐกิจไทยจะต้องขยายตัวเฉลี่ย ๕ เปอร์เซ็นต์/ปีในช่วง ๕ ปีของแผนฯ รายได้ต่อหัวเมื่อสิ้นแผนฯ จะต้องขึ้นมาอยู่ที่ ๘,๒๐๐ เหรียญสหรัฐ/คน/ปีจากปัจจุบัน ๖,๐๐๐ เหรียญสหรัฐ/คน/ปี จะต้องขับเคลื่อนส่วนต่าง ๆ ให้เป็นไปตามเป้าหมาย คือ ปริมาณและมูลค่าการส่งออกจะต้องขยายตัวไม่ต่ำกว่า ๔ เปอร์เซ็นต์ หนี้สาธารณะไม่เกิน ๕๕ เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี และขาดดุลบัญชีเดินสะพัดไม่เกิน ๒ เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี ขณะเดียวกันต้องสร้างความเข้มแข็งให้เกิดขึ้นในเศรษฐกิจรายสาขา โดยภาคเกษตร อุตสาหกรรม และบริการมีอัตราการขยายตัวไม่ต่ำกว่า ๓ เปอร์เซ็นต์/ปี ๔.๕ เปอร์เซ็นต์/ปี และ ๖ เปอร์เซ็นต์/ปีตามลำดับ โดยเฉพาะเกษตรกรมีรายได้สุทธิ ๕๙,๔๖๐ บาท/ปี พื้นที่ทำการเกษตรยั่งยืนเพิ่มเป็น ๕ แสนไร่ รายได้จากการท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า ๓ ล้านล้านบาท และผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีสัดส่วนจีดีพีเพิ่มเป็น ๔๕ เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีรวมเมื่อสิ้นสุดแผนในปี ๒๕๖๔ แต่เป้าหมายอีกด้านหนึ่งคือ การสร้างความเสมอภาค ลดความเหลื่อมล้ำ แม้ว่าแผนฯ ๑๒ จะทำให้ทุกคนเท่ากันไม่ได้ แต่ความเหลื่อมล้ำต้องลดลง นอกจากนี้แผนฯ ๑๒ ยังได้กำหนดแนวทางการเสริมสร้างศักยภาพของคน เพราะคนเป็นหัวใจที่สำคัญที่สุดของการพัฒนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเตรียมรับกับสังคมสูงวัย คาดว่าประเทศไทยจะมีประชากรสูงวัยประมาณ ๓๐ เปอร์เซ็นต์ในปี ๒๕๗๙ จากการสำรวจ พบว่าปัจจุบันคนสูงวัยถึง ๘๐ เปอร์เซ็นต์ไม่มีการออมที่พอเพียง และคะแนนทั้งไอคิวและอีคิวของเด็กไทยยังต่ำกว่ามาตรฐาน ดังนั้น การพัฒนาคนต่อจากนี้ในอีก ๒๐ ปีเป็นเรื่องท้าทาย เมื่อสิ้นแผนฯ ๑๒ ในปี ๒๕๖๔ ประเทศเพื่อนบ้าน ๑ ประเทศจะหลุดจากประเทศที่มีรายได้ปานกลางสู่ประเทศรายได้สูง และหลายประเทศหลุดจากประเทศยากจนมาเป็นประเทศรายได้ปานกลาง เราจะต้องขยับตนเองขึ้นสู่การเป็นประเทศที่มีรายได้สูง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แผนฯ ๑๒ เริ่มใช้ในปี ๒๕๖๐-๒๕๖๔ เป็นแผนสำคัญที่จะวางรากฐานพัฒนาประเทศไทยไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน กำหนดกรอบการพัฒนาประเทศ ประเทศจำเป็นต้องมีแผนระยะยาว ดังนั้น รัฐบาลจึงได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์ประเทศระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๗๙) เพื่อให้มีทิศทางและเป้าหมายร่วมกัน รัฐบาลมีนโยบายสร้างความเข้มแข็ง เร่งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ลดอุปสรรคในการลงทุน ดูแลคนทุกกลุ่ม ลดอุปสรรคในการเติบโตลง และลดความเหลื่อมล้ำ ทั้งหมดนี้คนไทยทุกคนจะต้องช่วยกัน ร่วมกันทำงานตามแนวทางประชารัฐ.
โดย พรรณี ตั้งใจสถาปัตย์
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|