เรื่อง เดินตามรอย “ศาสตร์พระราชา” ศาสตร์แห่งการพัฒนาที่ยั่งยืน
การจะทำให้เกษตรกรสามารถดำรงอยู่ในสังคมได้อย่างยั่งยืนนั้น นอกจากอาศัยความรู้และภูมิปัญญาดั้งเดิมแล้ว การพัฒนาวิชาชีพกระบวนการคิด การวางแผน เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน รศ.ดร.จิรายุ อิศรางกรู ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้รับใช้เบื้องพระยุคลบาทในตำแหน่งเลขาธิการสำนักพระราชวัง จากเดิมที่เป็นรองเลขาธิการสำนักพระราชวังมาตั้งแต่ปี 2530 อีกตำแหน่งหนึ่ง ได้มอบภารกิจให้มูลนิธิในความอุปถัมภ์ของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์และหน่วยงานอื่น ๆ ที่สนองพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อช่วยเกษตรกรทั่วประเทศ
มูลนิธิในความอุปถัมภ์ได้แก่ มูลนิธิมั่นพัฒนา มูลนิธิยุวสถิรคุณ และ มูลนิธิบุคคลพอเพียง แต่ละมูลนิธิต่างก็มีบทบาทในการเข้าไปเสริมศักยภาพและให้ความรู้ด้วย “ศาสตร์พระราชา” ให้แก่ประชาชนโดยเฉพาะเกษตรกร นักเรียน นักศึกษา รวมทั้งเยาวชน เพื่อให้เกิดการพึ่งพาตนเอง จนกระทั่งนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน
มูลนิธิมั่นพัฒนา เข้าถึงประชาชนผ่าน “โครงการพลังปัญญา”เปิดการอบรมผู้นำในท้องถิ่นและบุคคลที่สนใจเข้าร่วมอบรม โดยเน้นการใช้พลังปัญญาต่อยอดและพัฒนาจากสิ่งที่มีอยู่เดิม เพื่อให้มีความทันสมัยและสร้างมูลค่าเพิ่มให้เกิดขึ้น เช่น การแปรรูป การหาตลาด การพัฒนาผลิตภัณฑ์ เป็นต้น นอกจากนี้มูลนิธิมั่นพัฒนา มีโครงการให้ความช่วยเหลือชาวนา “ที่ทำนาอยู่ในนาพระราชทาน”(สปก.) 5 จังหวัด คือ อยุธยา นครปฐม ปทุมธานี นครนายก และฉะเชิงเทรา ในชื่อ “โครงการโมเดลนาข้าวของสำนักงานทรัพย์ส่วนพระมหากษัตริย์”
ส่วน มูลนิธิยุวสถิรกุล แบ่งกิจกรรมออกเป็น 3 ศูนย์ คือ ศูนย์สถานศึกษาพอเพียง ศูนย์จิตวิทยาการศึกษา และศูนย์โรงเรียนคุณธรรม โดยมีวิทยากรมากประสบการณ์พร้อมให้ความรู้ผ่านการบรรยาย เน้นกระบวนการช่วยเหลือและพัฒนาองค์ความรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและหลักคุณธรรม เพื่อนำไปสู่การวางแผนชีวิต วางแผนอาชีพ และสร้างรายได้เพิ่ม เพื่อเติมเต็มความสุขที่ยั่งยืนและมั่นคง
ในขณะที่ มูลนิธิบุคคลพอเพียง มีเครือข่าย “ชมรมคนรักในหลวง” ทั่วประเทศ 70 กว่าจังหวัด ดำเนินการในกิจกรรมหลัก คือ สนับสนุนให้ประชาชนร่วมกันแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันและดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในปี 2559 เนื่องในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์ครบ 70 ปี ได้ดำเนินโครงการ “ผู้นำแห่งยุคเพื่อความสุขที่ยั่งยืน” เป็นความร่วมมือของ 4 องค์กรได้แก่ มูลนิธิบุคคลพอเพียง มูลนิธิ ยุวสถิรคุณ มูลนิธิมั่นพัฒนา และ สำนักงาน กปร. ร่วมมือกันจัดการฝึกอบรมผู้นำเกษตรกรทั่วประเทศ ในการอบรมรุ่น 1 ในปี 2559 เสร็จสิ้นไปแล้ว ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติอย่างเข้มข้น โดยคาดหวังว่าเกษตรกรผู้ผ่านการอบรมแล้วจะสามารถกลับไปพัฒนาตนเองและเป็นผู้นำที่พอเพียง รวมทั้งผลักดันให้เกิดในชุมชนพอเพียงในหมู่บ้านของตนเอง เพื่อให้เกษตรพ้นความทุกข์ยากจากการเป็นหนี้สินได้เป็นผลสำเร็จ
จากที่กล่าวมาแล้วจะเห็นได้ว่าแต่ละหน่วยงานทั้งหมดมีบทบาทหน้าที่ต่างกัน แต่มีความเชื่อมร้อยกันเป็นหนึ่งเดียว ด้วยเป้าหมายคือการพัฒนาเกษตรกรไทยให้มีความเข้มแข็ง สามารถพึ่งตนเองได้และอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขย่างยั่งยืนด้วยหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและ “ศาสตร์พระราชา” ศาสตร์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ ที่พระราชทานให้แก่ประชาชนของพระองค์ เราจะก้าวเดินตามรอยพระบาทด้วยการเดินตามรอย “ศาสตร์พระราชา” ศาสตร์แห่งการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างมั่นคงไม่แปรเปลี่ยนตลอดไป
โดย ญาณี จันทร์กล่ำ
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|