เรื่อง ราชาผู้ทรงธรรม
วันที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ เวลา ๑๕.๕๒ น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคต ณ โรงพยาบาลศิริราช สิริพระชนมพรรษาปีที่ ๘๙ ทรงครองราชย์สมบัติได้ ๗๐ ปี ๑๓๐ วัน นับเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทยที่ไม่มีผู้ใดได้เตรียมตัวเตรียมใจ
ตลอด ๗๐ ปีทรงครองราชย์ของพระองค์นั้น มีเพียง ๔ ปีที่ใช้ชีวิตส่วนพระองค์ เป็น ๔ ปีที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินทรงศึกษาต่อยังประเทศสวิตเซอร์แลนด์เพื่อเตรียมพระองค์สำหรับการเป็นพระมหากษัตริย์ของประเทศ ตลอด ๗๐ ปีของการครองราชย์พระองค์มีโครงการพระราชดำริกว่า ๔,๔๔๗ โครงการ เฉลี่ยทุก ๕ วันจะมีโครงการพระราชดำริออกมาใหม่ ๑ โครงการ หลังจากที่พระองค์เสด็จนิวัติกลับพระนครในปี ๒๔๙๓ โปรดเกล้าฯให้จัดการพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสเมื่อวันที่ ๒๘ เมษายน และในวันที่ ๕ พฤษภาคม ปี ๒๔๙๓ พระองค์พระราชทานพระปฐมบรมราชโองการในวันพระราชพิธี บรมราชาภิเษก ความว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชน ชาวสยาม” แม้ขณะนั้น ประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง แต่ยังมีพื้นที่ทุรกันดารและประชาชนชายขอบการพัฒนาที่ภาครัฐยังเข้าไปจัดการได้ไม่ทั่วถึงหรือจัดการไม่ได้ หรือขาดความต่อเนื่อง ในปี ๒๔๙๕ เสด็จฯ เป็นการส่วนพระองค์ได้พบกับความยากลำบากของประชาชน จึงทรงตั้งปณิธานจะเสด็จฯ ไปทุกพื้นที่ทั่วประเทศเพื่อสำรวจภูมิประเทศและสำรวจความเดือดร้อนของประชาชน จนว่ากันว่าระยะทางที่เสด็จฯทรงงานกว่า ๗๐ ปีมีพื้นที่มากกว่าหลักล้านกิโลเมตร อันเป็นจุดเริ่มต้นของพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่ทรงงานหนักเพื่อลดความเหลื่อมล้ำคนในชาติ ทุกที่ที่พระองค์เสด็จได้รับทราบปัญหานำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น มีบันทึกว่าในปี ๒๔๙๕ พระองค์เสด็จฯ ยังบริเวณบ้านห้วยมงคล จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อสำรวจภูมิประเทศเป็นการส่วนพระองค์ ได้ตรัสสอบถามปัญหากับประชาชน จนพบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีการสัญจรไปมาลำบากต้องใช้เกวียน หรือถ้าจะเดินต้องใช้เวลา ๒ วัน ๒ คืนจึงจะถึงกลางเมือง พระองค์จึงพระราชทานถนนสายห้วยมงคล ซึ่งถือเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริโครงการแรก และเป็นที่มาของโครงการพระราชดำริที่มีมากถึง ๔,๔๔๗ โครงการ แบ่งเป็น ๘ ประเภท ประกอบด้วยโครงการพัฒนาด้านแหล่งน้ำ, ด้านการเกษตร, ด้านสิ่งแวดล้อม, ด้านส่งเสริมอาชีพ, ด้านสาธารณสุข, ด้านคมนาคม, ด้านสวัสดิการสังคมและการศึกษา และโครงการพัฒนาแบบบูรณาการ โครงการพระราชดำริมีทั้งเรื่องพันธุ์ข้าว, ฝนหลวง, แก้ไขปัญหาการเกษตร และแก้ไขปัญหายาเสพติดที่มูลนิธิรามอน แมกไซไซทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลในสาขา International Understanding ในฐานะที่ทอดพระเนตรเห็นถึงภัยพิบัติปัญหายาเสพติดว่าวิกฤตร้ายแรงที่สุดของประเทศ ซึ่งพระองค์เสด็จฯถึงพื้นที่และมีพระราชดำริให้ประชาชนเลิกปลูกฝิ่น รวมทั้งโปรดเกล้าฯ พระราชทานทรัพย์และพระราชทานพันธุ์พืช ริเริ่มโครงการหลวงปลูกพืชต่าง ๆ เช่น กาแฟดอยช้างที่โด่งดังทั่วโลก จะมีผู้นำสักกี่คนในโลกที่แก้ไขปัญหาด้วยการให้อาชีพเหมือนพระองค์ท่าน และไม่เคยมีพระมหากษัตริย์องค์ใดใช้เวลาช่วงวันคล้ายวันพระราชสมภพตรัสเรื่องแนวทางการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองทุก ๆ ปี ซึ่งหลังจบภารกิจสำรวจปัญหาภายในประเทศ พระองค์จึงเริ่มเสด็จต่างประเทศเพื่อเจริญสัมพันธไมตรี สร้างความเปลี่ยนแปลงและคุณูปการต่อรัฐและประชาชน นอกจากไทยจะปรากฏบนแผนที่โลกชัดเจน ในสายตาต่างชาติแล้ว ยังได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ นำมาซึ่งความร่วมมือกับประเทศมหาอำนาจที่ส่งต่อความร่วมมือและโครงการต่าง ๆ มายังประเทศไทย
ตลอดระยะเวลากว่า ๗๐ ปีแห่งการครองราชย์ พระองค์ทรงงานหนักทุกวัน ถึงกระนั้น เมื่อใดที่ทรงประชวรพระองค์ยังสั่งให้ข้าราชบริพารติดตั้งคอมพิวเตอร์เพื่อทรงงานที่โรงพยาบาล พระองค์ยังทรงงานและยึดถือประชาชนเป็นสำคัญเสมอมา ทรงเป็นพระราชา ผู้ทรงธรรม เป็นผู้นำของการลดความเหลื่อมล้ำของคนในชาติอย่างแท้จริง.
โดย พรรณี ตั้งใจสถาปัตย์
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|