เรื่อง  National e-Payment

National e-Payment เป็นระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่รัฐบาลกำลังผลักดัน เพื่อให้มีระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้มาตรฐานสากล สอดคล้องกับการใช้เทคโนโลยีโดยเฉพาะอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลาย     มากขึ้น และมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อช่วยยกระดับศักยภาพและ           การแข่งขันของประเทศโดยรวม รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังจึงได้ริเริ่มผลักดันแนวคิด National e-Payment ขึ้นตั้งแต่ปี ๒๕๕๘ ที่ผ่านมา

แผนยุทธศาสตร์ National e-Payment แบ่งออกเป็น ๕ โครงการ ได้แก่

๑. โครงการพัฒนาระบบการชำระเงินแบบ Any ID: สามารถใช้ ID ๕ ประเภทในการรับหรือโอนเงินได้ ได้แก่ เลขที่บัตรประชาชน เลขที่บัญชีธนาคาร หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่       e-Wallet ID และ e-Mail address

๒. โครงการขยายการใช้บัตร: โดยส่งเสริมการใช้บัตรเดบิตแทนเงินสด ขยายจุดรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ให้ทั่วถึง

๓. โครงการระบบภาษีและเอกสารธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์: เพื่อจัดเก็บข้อมูลภาษีและข้อมูลชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ช่วยขยายฐานภาษีได้ครบถ้วนขึ้น

๔. โครงการ e-Payment ภาครัฐ: เป็นช่องทางการจ่ายสวัสดิการภาครัฐแก่ประชาชนโดยใช้เลขที่บัตรประชาชน และใช้จัดเก็บฐานข้อมูลทะเบียนประชาชนให้ครบถ้วนขึ้น

๕. โครงการการให้ความรู้และส่งเสริมการใช้ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์: โดยให้ทุกหน่วยงานร่วมประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ประชาชน เพื่อส่งเสริมการใช้ e-Payment อีกทั้ง ภาครัฐก็จะออกมาตรการเพื่อกระตุ้นการใช้ e-Payment แทนเงินสดและเช็คด้วย

โดยแผนงานนี้จะเป็นประโยชน์ต่อภาคส่วนต่าง ๆ ในระบบเศรษฐกิจ ประชาชนจะสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม สะดวก ปลอดภัยและง่าย โดยเฉพาะประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่มีสิทธิรับเงินสวัสดิการจากภาครัฐ จะมีช่องทางการรับ

เงินช่วยเหลือที่สะดวกขึ้น รวมทั้งการรับจ่ายเงินกับหน่วยงานภาครัฐจะมีช่องทางที่รวดเร็วมากขึ้น ถึงมือประชาชน ถูกกลุ่มเป้าหมาย และที่สำคัญคือจะมีฐานข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์ในการประเมินผลนโยบายปัจจุบันเพื่อนำไปพัฒนานโยบายสวัสดิการสังคม รวมทั้ง ยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการรับจ่ายเงินของภาครัฐผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ช่วยในการบริหารจัดการเงินงบประมาณให้รวดเร็ว ลดค่าใช้จ่าย และโปร่งใสมากขึ้น ในขณะเดียวกันโครงการดังกล่าวจะช่วยพัฒนาศักยภาพการแข่งขันและสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับภาคธุรกิจ ผ่านช่องทางการรับชำระเงินที่หลากหลายและมีมาตรฐานสากลมากขึ้น เป็นการลดต้นทุนโดยเฉพาะการบริหารจัดการเงินสด และลดภาระการจัดการเอกสารและนำส่งภาษีที่เกี่ยวข้อง

จะเห็นได้ว่า ระบบการชำระเงินของไทยกำลังจะถูกพลิกโฉมให้เป็นธุรกรรมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ มีความว่องไวมากขึ้น และผู้ใช้งานสามารถมั่นใจในความปลอดภัย ตามแนวคิดของ “ว่องไว มั่นใจ ใช่เลย” ของโครงการ National e-Payment สำหรับความคืบหน้าของโครงการ National e-Payment จะสามารถติดตามได้ผ่านทางเว็บไซต์ www.epayment.go.th

โดย   เพ็ญกมล ประเสริฐกุล
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก