เรื่อง การแก้ไขอุบัติเหตุผ่าน ร่าง พ.ร.บ.การจราจรทางบก
จากวันหยุดยาวปีใหม่ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีอุบัติเหตุบนท้องถนนเกิดขึ้นในหลายจังหวัด ทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน ถึงแม้ว่าภาครัฐจะร่วมกันรณรงค์กวดขันและระมัดระวังการเกิดอุบัติเหตุของประชาชนอย่างเต็มที่ แต่อุบัติเหตุกลับเพิ่มมากขึ้นสวนทางการประชาสัมพันธ์ลดอุบัติเหตุ
เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนและสนองตามข้อสั่งการของพล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรีที่เป็นห่วงด้านความปลอดภัยของประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้เสนอร่าง พ.ร.บ.การจราจรทางบก ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา โดยมีการจัดตั้งคณะกรรมการดูแลด้านความปลอดภัยจากการจราจรทางบก ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน โดยได้เสนอมาตรการต่าง ๆ เข้าสู่ที่ประชุม ครม. เมื่อเดือนตุลาคม ๒๕๕๙ อย่างไรก็ตามเนื่องจากการออก พ.ร.บ.ต่าง ๆ ต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการ ดังนั้นในขณะนี้รัฐบาลจึงต้องนำมาตรา ๔๔ ออกมาบังคับใช้ไปก่อน
สำหรับการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.จราจรทางบกนั้น ประกอบด้วย ๕ เรื่อง คือ
๑. กรณีเมาแล้วขับ
๒. กรณีขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด
๓. กรณีของใบอนุญาตขับขี่
๔. กรณีรถโดยสารสาธารณะ
๕. กรณีการคาดเข็มขัดนิรภัย โดยจะมีการเพิ่มบทลงโทษในกรณีที่เพิกเฉยการชำระค่าปรับหลังกระทำความผิด
สำหรับความผิด เช่น กรณีที่กระทำความผิดแล้วได้รับใบสั่ง จะต้องไปจ่ายตามเวลาที่กำหนด หลังจากนั้นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกใบเตือนภายหลังอีก ๑๕ วัน และหากยังไม่มีการ
ชำระค่าปรับ ให้เจ้าหน้าที่แจ้งนายทะเบียนตามกฎหมาย ให้พักใช้ใบอนุญาตขับขี่ รวมทั้งไม่อนุญาตให้ต่อภาษีรถด้วย เพื่อให้เกิดความเกรงกลัวในการกระทำความผิด นอกจากนี้ ในกรณีที่กระทำความผิดซ้ำในกรณีเดียวกันภายในเวลา ๑ ปี ให้เพิ่มจำนวนค่าปรับเป็น ๒ เท่า
นอกจากนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะมีแนวนโยบายในการเชื่อมต่อข้อมูลกับกรมการขนส่งทางบก กรณีที่บุคคลกระทำผิดกฎหมายที่โดนใบสั่งส่งไปที่บ้านแล้วละเลย ไม่ยอมจ่ายค่าปรับ หากได้รับใบสั่งแล้วไม่ไปจ่ายค่าปรับจะให้ชะลอการต่อภาษีรถออกไป โดยกฎหมายดังกล่าว รัฐบาลจะเร่งผลักดันให้ใช้ก่อนเทศกาลสงกรานต์ ปี ๒๕๖๐
โดย เพ็ญกมล ประเสริฐกุล
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|