เรื่อง  กระทรวงดีอียุคดิจิทัล ดันไทยเข้ายุค 4.0

ปี ๒๕๖๐ ถือเป็นปีแรกที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี)      ได้ปรับบทบาทหน้าที่มาจากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเดิม โดยมี      นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์เป็นเจ้ากระทรวง เป็นอีกหนึ่งกระทรวงที่มีหน้าที่สำคัญในการช่วยเหลือรัฐบาลขับเคลื่อนนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ที่ขับเคลื่อนประเทศด้วยนวัตกรรม      เป็นผู้สนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานประเทศด้านดิจิทัล สนับสนุนให้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลแก่ประชาชน นอกจากนี้ ให้ความสำคัญเรื่องการวางโครงข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง (บรอดแบนด์) เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยการขยายโครงข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านสื่อสัญญาณสายเคเบิลใยแก้วนำแสง เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจภายในประเทศหรือโครงการอินเตอร์เน็ตหมู่บ้านให้ครอบคลุมทั้ง ๗๐,๐๐๐ หมู่บ้านทั่วประเทศเพื่อลดความเหลื่อมล้ำและสร้างโอกาสเข้าถึงอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงเหมือนกับคนเมือง โดยมีบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินการติดตั้งโครงข่ายไปยังหมู่บ้านที่เหลืออีก ๒๔,๗๐๐ แห่ง ให้เสร็จสิ้นในปี ๒๕๖๐

นายพิเชฐ ยังได้ระบุอีกว่า จะสร้างดิจิทัลชุมชนควบคู่กับการวางโครงข่ายอินเตอร์เน็ตให้ครอบคลุมทั้งประเทศเพื่อกระจายความเจริญไปสู่ ๗๐,๐๐๐ หมู่บ้านภายใต้ ๓ โครงการย่อย คือ วิลเลจ คอมมูนิตี้ ลงไปให้องค์ความรู้แก่ชาวบ้านในพื้นที่ สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่อาชีพและธุรกิจของตน การแนะนำตลาดให้ทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ การนำเรื่องอีคอมเมิร์ซลงสู่ชุมชน ช่วยให้ตลาดกลายเป็นโลกทั้งใบ การกระจาย อีคอมเมิร์ซยังช่วยแก้ปัญหาแรงงาน ให้แรงงานกลับไปทำงานและพัฒนาระบบเศรษฐกิจ    ในท้องถิ่นของตน, อีเฮลท์ สนับสนุนด้านการแพทย์ในพื้นที่ห่างไกล หลังโครงข่ายบรอดแบนด์ไปถึง สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรืออีจีเอจะวางระบบเครือข่าย

ระบบไอทีและแอพพลิเคชั่นเพื่อให้เชื่อมโยงศูนย์บริการทางการแพทย์ของไทยทั่วประเทศ,       โลคอล อีกอฟเวอร์เมนต์ บริการภาครัฐ โดยจะให้บริการภาครัฐในแต่ละพื้นที่นำเรื่อง     ของเทคโนโลยีมาใช้เพื่อความสะดวกรวดเร็ว ลดเวลาการทำธุรกรรมของประชาชน เชื่อมโยงฐานข้อมูลระหว่างหน่วยงานรัฐ

ส่วนอีกโครงการสำคัญที่กระทรวงดีอีมีแผนจะผลักดันคือ การก่อตั้งนิคมอุตสาหกรรม “ดิจิทัลพาร์คไทยแลนด์” หรือเขตพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านดิจิทัล อาทิ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ แอพพลิเคชั่น ศูนย์บริการจัดเก็บข้อมูล นวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์อัจฉริยะต่าง ๆ ที่เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต (ไอโอที) หรือนวัตกรรมดิจิทัลแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน เพื่อนำไปสู่การเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมด้านดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน โดยดิจิทัลพาร์คไทยแลนด์ตั้งบนเนื้อที่ราว ๕๐๐ ไร่ ของบริษัท กสท.โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี สำหรับสิทธิประโยชน์ที่จะจูงใจให้เอกชนเข้ามาใช้พื้นที่นิคมคือ จะสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงาน ให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนให้สิทธิประโยชน์อัตราสูงสุดคือ ยกเว้นภาษี ๘ ปี และลดหย่อนเพิ่มเติมอีก ๕๐ เปอร์เซ็นต์ต่ออีก ๕ ปี ยกเว้นภาษีนำเข้าอุปกรณ์วิจัยหรือสร้างสรรค์นวัตกรรมทุกชนิด อำนวยความสะดวกการเข้ามาทำงานของนักวิจัยระดับโลก ยกเว้นการเก็บภาษีเงินได้บุคลธรรมดาของนักวิจัยที่ทำงานในดิจิทัลพาร์คไทยแลนด์

คาดว่าจะสามารถสรุปรายละเอียดของโครงการได้ภายในเดือนมีนาคม ๒๕๖๐ จากนั้นจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเพื่ออนุมัติต่อไป.