เรื่อง กรมประมงประกาศปิดทะเลอ่าวไทยเพื่อขยายพันธุ์สัตว์น้ำในทะเล
กรมประมงประกาศปิดทะเลอ่าวไทย ประจำปี ๒๕๖๐ เพื่อให้ทรัพยากรสัตว์น้ำในทะเลช่วงฤดูปลาที่มีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัวในวัยอ่อน ฝั่งทะเลอ่าวไทย ระหว่างวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ – ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๐ รวม ๓ เดือน เพื่อเป็นการขยายพันธุ์ของพ่อแม่พันธุ์และสัตว์น้ำวัยอ่อนในทะเลอ่าวไทย โดยเฉพาะปลาทู ซึ่งเป็นสัตว์น้ำที่มีคุณค่าและมีความสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศ
ทั้งนี้ จากการศึกษาของกรมประมงพบว่าในระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคมของทุกปี เป็นช่วงเวลาที่ปลาทูและสัตว์น้ำเศรษฐกิจอื่น ๆ ในทะเลอ่าวไทยมีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัวในวัยอ่อน ซึ่งกรมประมงเห็นถึงความจำเป็นในการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำในอ่าวไทย จึงได้มีการศึกษาวงจรชีวิตสัตว์น้ำ ซึ่งจากผลการศึกษาปรากฏว่าบริเวณอ่าวไทยตอนกลางพื้นที่ชายฝั่งทะเลครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่เขตจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี รวมพื้นที่ประมาณ ๒๖,๔๐๐ ตารางกิโลเมตร หรือ ๑๖.๕ ล้านไร่ เป็นแหล่งวางไข่และเลี้ยงตัว วัยอ่อนที่สำคัญของสัตว์น้ำเศรษฐกิจหลายชนิด โดยเฉพาะปลาทูมีช่วงเวลาวางไข่หนาแน่นที่สุดในระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายนของทุกปี
ดังนั้น จึงนำผลการศึกษามาวางมาตรการบริหารจัดการสัตว์น้ำในช่วงฤดูที่สัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัวในวัยอ่อน หรือที่รู้จักกันดีในกลุ่มชาวประมงและประชาชนทั่วไป คือ “ฤดูปิดอ่าว” เพื่อห้ามใช้เครื่องมือบางประเภทที่มีผลกระทบต่อทรัพยากร ทำการประมงในช่วงฤดูปลามีไข่และเลี้ยงตัวในวัยอ่อน โดยได้ดำเนินการมาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๙๖ ซึ่งเป็นระยะเวลายาวนานถึง ๖๔ ปี และได้มีการปรับปรุงแก้ไขประกาศกระทรวงเกษตรฯ หลายฉบับให้ทันกับสถานการณ์ สภาพแวดล้อม และสภาวะทรัพยากรที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น ในท้องทะเลบางส่วนของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี เป็นช่วงเวลาที่พ่อ – แม่พันธุ์สัตว์น้ำมีความสมบูรณ์
เพศสูงและพร้อมที่จะวางไข่ ดังเห็นได้จากการเก็บข้อมูล จำนวนประชากรสัตว์น้ำเมื่อปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะปลาทูพบว่าหลังเปิดอ่าวไทย มีปริมาณการจับ จำนวน ๓๘,๖๙๕.๘๔ ตัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากก่อนมาตรการปิดอ่าวถึง ๒๙,๗๖๕ ตัน หรือ เพิ่มขึ้นประมาณ ๓.๓ เท่า จึงแสดงให้เห็นว่ามาตรการปิดอ่าวฯ สามารถสร้างความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรสัตว์น้ำในท้องทะเลให้คืนกลับมาได้อย่างยั่งยืน
สำหรับมาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำ ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา กำหนดห้ามใช้เครื่องมือทำการประมงบางชนิดในพื้นที่ ๓ จังหวัดภายในระยะเวลาที่กำหนด ประกอบด้วยเครื่องมืออวนติดตาจับปลาทุกชนิดที่ใช้ประกอบเรือกลทำการประมง ยกเว้นการใช้เครื่องมืออวนติดตาจับปลาที่มีช่องตาอวนตั้งแต่ ๒ นิ้วขึ้นไป ที่ใช้ประกอบกับเรือกลที่มีขนาดต่ำกว่า ๑๐ ตันกรอส ทำการประมง ซึ่งหมายถึงเรือประมงพื้นบ้าน โดยให้ประกาศสิ้นสุดผลการบังคับใช้เมื่อพ้นวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๐ นอกจากนั้น ยังมีประกาศกำหนดเครื่องมือทำการประมง วิธีการทำประมง และพื้นที่การทำประมง ที่ห้ามใช้ทำการประมงในที่จับสัตว์น้ำบางแห่ง ตั้งแต่วันที่ ๑๖ พฤษภาคม – ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๐ ห้ามใช้เครื่องมืออวนลากทุกชนิดใช้ประกอบเครื่องปั่นไฟทำการประมงในเขต ๗ ไมล์ทะเล นับจากแนวชายฝั่ง ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี ยกเว้นการใช้เรืออวนครอบ อวนช้อน และอวนหมึกประกอบเครื่องปั่นไฟทำการประมงนอกเขตชายฝั่ง ซึ่งมาตรการฯ ดังกล่าวส่งผลให้ชาวประมงมีรายได้ในการประกอบอาชีพได้อย่างดี อีกทั้งประชาชนคนไทยได้มีสัตว์น้ำบริโภคตลอดไป
โดย นิยะดา พันธุ์เพ็ชร
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|