เรื่อง ขยะพลาสติกในทะเล
คนไทยตื่นตัวต่อปัญหาขยะจำนวนมากที่ถูกทิ้งลงทะเล ขณะที่เจ้าหน้าที่เร่งเก็บกู้ขนย้ายเพื่อไม่ให้เป็นภาพอุจาดตา ประเทศไทยจัดอยู่ในอันดับที่ ๖ ของโลกที่ปล่อยขยะพลาสติกลงสู่มหาสมุทร เพื่อรณรงค์ให้ผู้บริโภคลดใช้พลาสติกแบบครั้งเดียวทิ้ง กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จัดกิจกรรม “Heart for the Ocean : บอกรักทะเล บอกเลิกพลาสติก” ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ I love my ocean สร้างรักให้ทะเล ผลงานออกแบบจากอาจารย์ป้อม ประสพสุข เลิศวิริยะปิติ ที่ใช้วัสดุส่วนหนึ่งจากขยะชายหาด ๕ แห่ง และขยะในครัวเรือน รวมทั้งนิทรรศการภาพถ่ายสะท้อนวิกฤตขยะพลาสติกในเมือง ชายหาด และใต้ทะเล
เย็บ ซาโน ผู้อำนวยการบริหารกรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า เมื่อ ๒๐ ปีก่อนมหาสมุทรเป็นที่หลบภัยของนักดำน้ำ แต่เมื่อกลับไปที่เดิมกลับพบว่า มีขยะมากมาย ทั้งถุงพลาสติก ผ้าอ้อมเด็ก ขวดน้ำ ส่วนปะการังถูกทำลายด้วยการตกปลาแบบใช้ระเบิดไดนาไมต์ งานกิจกรรม Heart for the Ocean ครั้งนี้ จะได้เห็นขยะพลาสติกกลายเป็นชิ้นงานศิลปะสวยงาม เมื่อได้เสพและซาบซึ้งกับงานศิลปะจะช่วยกันปกป้องทะเลและมหาสมุทร ลดและเลิกใช้พลาสติก ทุกปีมนุษย์ผลิตพลาสติกใช้มากถึง ๓๐๐ ล้านตัน เท่ากับน้ำหนักช้าง ๕๕ ล้านตัว และจะมีพลาสติกประมาณ ๑๐ ล้านตันเข้าไปอยู่ในท้องทะเลและมหาสมุทรทุกปี ทะเลไม่ใช่ที่อยู่ของพลาสติกจำนวนมาก สอดรับกับข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษ ในปี ๒๕๕๘ พบว่า ประเทศไทยมีปริมาณขยะพลาสติกและโฟมมากถึง ๒.๗ ล้านตัน หรือเฉลี่ย ๗,๐๐๐ ตัน/วัน เป็นขยะพลาสติกร้อยละ ๘๐ หรือ ๕,๓๐๐ ตัน/วัน
อัญชลี พิพัฒนวัฒนากุล ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านทะเลและมหาสมุทร กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า ขยะพลาสติกเกิดจากการกินดื่มใช้ในชีวิตประจำวัน ระบบการคัดแยกขยะของไทยมีปัญหา ทำให้ขยะหลุดเข้าสู่แหล่งน้ำสาธารณะ คูคลอง และออกสู่ทะเล เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา พบขยะจำนวนมากลอยในคลองลาดพร้าวใกล้บึงพระราม ๙ เป็นสาเหตุหนึ่งทำให้น้ำท่วมกรุงเทพฯ เมื่อฝนตกหนักขยะขวางทางระบายน้ำ แนวทางแก้ปัญหาต้องเริ่มจากตัวเองก่อน คือ ลดใช้พลาสติกที่อายุใช้งานสั้น ปรับพฤติกรรมลดใช้พลาสติก พกขวดน้ำ กล่องข้าว เลิกใช้หลอด ปัญหาขยะในทะเลต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ ภาคประชาชน ผู้ประกอบการ ลดใช้พลาสติกตั้งแต่ต้นทางและเห็นด้วยกับภาครัฐที่เร่งผลักดันกฎหมายห้ามแจกถุงพลาสติกในจังหวัดริมชายฝั่งเพื่อลดปริมาณขยะ แต่อาจไม่ใช่ทางออก ยังมีแนวทางอื่นที่น่าส่งเสริม อาทิ สนับสนุนผู้ประกอบการผลิตผลิตภัณฑ์จากวัสดุย่อยสลายได้ง่าย หรือสนับสนุนนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ ส่วนการรีไซเคิลยอมรับว่า โรงงานรีไซเคิลสร้างผลกระทบทำให้เกิดมลพิษทางอากาศและน้ำเช่นกัน การแก้ปัญหาต้องไม่สร้างปัญหาใหม่และผลักภาระให้ผู้บริโภค
ความตื่นตัวต่อปัญหาขยะในทะเล นายศักดาเดช สุดแสวง นักธุรกิจผู้ผันตัว มาเป็นผู้พิชิตขยะ กล่าวว่า จากปัญหาขยะจำนวนมหาศาลในทะเล ขยะไม่ได้อยู่กลางทะเลเท่านั้น แต่จากชายฝั่งเข้าไป ๑๐๐ เมตรหรือแม้แต่ใต้ทรายชายหาด ปกติจะใช้เรือขนย้ายขยะออกจากพื้นที่ ค่าจ้างเรือคือขยะที่คนเรือจะนำไปขายต่อเพื่อสร้างรายได้ ความสะเทือนใจที่ได้พบคือ การเจอซากปลา ซากเต่าซึ่งตายจากการกินเศษพลาสติก ทุกคนต้องช่วยลดใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง สังคมต้องตื่นตัวผลกระทบขยะต่อสิ่งแวดล้อมและทะเล จึงจะยับยั้ง การทำลายทรัพยากรธรรมชาติได้.
โดย พรรณี ตั้งใจสถาปัตย์
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|