เรื่อง การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการและยั่งยืน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานเปิดงานการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการและยั่งยืน กล่าวว่า การเปิดโครงการอย่างเป็นทางการครั้งนี้เพื่อให้การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบเป็นวาระแห่งชาติ เพราะส่งผลกระทบให้ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยมีเป้าหมายจัดการหนี้ นอกระบบให้เป็นศูนย์ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะยกหนี้ให้ เพียงแต่จะทำให้กลับเข้ามา ในระบบ โดยรัฐบาลจะกวาดล้างพวกเจ้าหนี้ ผู้ให้กู้ และนายทุนนอกระบบที่ผิดกฎหมาย อย่างเด็ดขาด และขอให้เจ้าหนี้นอกระบบมาขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย ต่อจากนี้ จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการกวาดล้างทั้งหมด ส่วนตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ ถ้าเป็นเจ้าหนี้นอกระบบแล้วไปรับจ้างทวงหนี้อีกจะลงโทษปลดทันที นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวว่า รัฐบาลพร้อมรับฟังเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ ซึ่งเจ้าหนี้ที่ไม่ทำตามกฎหมาย โดยผู้ใดตามทวงหนี้ขอให้ส่งคำร้องมาที่ทำเนียบรัฐบาลทันที และขอให้ทุกคนช่วยกันลด ความเหลื่อมล้ำในสังคมและลดความเหลื่อมล้ำให้แก่ประชาชน รวมถึงต้องร่วมมือกันทุกส่วนพร้อมทั้งเคารพกฎหมายต่อไป เพื่อจะได้เป็นประเทศที่มีรายได้สูง
ทางด้านนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เผยว่า แนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบมี ๕ มิติ ประกอบด้วย การเพิ่มโทษกับเจ้าหนี้ นอกระบบเพื่อกำจัดผู้ทำผิดกฎหมาย, เพิ่มช่องทางการเข้าถึงสินเชื่อ และให้เจ้าหนี้ นอกระบบเข้ามาในระบบที่ถูกต้องตามกฎหมาย ผ่านการขออนุญาตเป็นผู้ประกอบธุรกิจนาโนไฟแนนซ์ และพิโคไฟแนนซ์, การลดภาระหนี้นอกระบบ โดยไกล่เกลี่ยประนอมหนี้, เพิ่มศักยภาพลูกหนี้นอกระบบ โดยให้ความรู้ทางการเงิน การประกอบอาชีพเพื่อไม่ต้องเป็นหนี้ซ้ำและการร่วมมือกันอย่างบูรณาการโดยพัฒนาเครือข่ายองค์กรการเงินชุมชน
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ปีนี้หนี้นอกระบบจะต้องเป็นศูนย์ โดยมีทางเลือกให้เจ้าหนี้นอกระบบคือ หากต้องการปล่อยกู้นอกระบบ ต้องคิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน ๑๕ เปอร์เซ็นต์/ปี แต่หากต้องการปล่อยกู้คิดอัตราดอกเบี้ย สูงกว่าต้องเข้าจดทะเบียนพิโคไฟแนนซ์ อัตราดอกเบี้ยไม่เกิน ๓๖ เปอร์เซ็นต์/ปี ถ้าไม่ทำ ใน ๒ ทางเลือกแรก จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งจะมีบทลงโทษสูงสุดถึงจำคุก.
โดย พรรณี ตั้งใจสถาปัตย์
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|