เรื่อง THEOS – 2 ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอวกาศของไทย
เมื่อปี 2557 ที่ผ่านมา หลายคนคงจำเหตุการณ์เที่ยวบิน MH370 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส หายไปอย่างลึกลับได้ ซึ่งปัจจุบันก็ยังคงเป็นความลึกลับอยู่ เนื่องจากไม่สามารถหาซากเครื่องบิน หรือกล่องดำพบ
คนที่ติดตามเหตุการณ์นี้จะทราบดีว่ามีชื่อดาวเทียม “ไทยโชต” ตรวจพบวัตถุต้องสงสัยลอยน้ำกระจายอยู่ในมหาสมุทรอินเดียกินพื้นที่กว่า 450 ตารางกิโลเมตร ห่างจากชายฝั่งเมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย 2,700 กิโลเมตร ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นชิ้นส่วนของเครื่องบินในเที่ยวบิน MH370 ที่หายไป ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่าสนใจของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอยู่ไม่น้อย ด้วยความที่เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุการณ์โศกนาฎกรรมสะเทือนขวัญของคนทั่วโลกซึ่งไม่สามารถตรวจหาสาเหตุได้ และก่อนหน้านั้นได้มีภาพถ่ายดาวเทียมฝรั่งเศสพบวัสดุบริเวณดังกล่าว ประเทศไทยจึงนำดาวเทียมไทยโชตช่วยค้นหาบริเวณที่คาดว่าจะเป็นจุดที่เครื่องบินตกด้วย และก็ได้พบวัตถุต้องสงสัยดังกล่าว
ขณะนั้น ข้าพเจ้าเป็นคนหนึ่งที่ติดตามเหตุการณ์นี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่ได้รู้จักชื่อดาวเทียมไทยโชตมาก่อนเลย เมื่อข่าวออกมาก็รู้สึกเป็นปลื้มกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอวกาศของไทยอยู่ไม่น้อย ความเห็นส่วนใหญ่ของคนไทยก็ไปในแนวทางเดียวกันนี้ รวมไปถึงความเห็นของชาวต่างชาติด้วย บางคนกล่าวว่าไม่ทราบมาก่อนเลยว่าประเทศไทยจะมีความก้าวหน้ามากขนาดนี้ หรือบางคนกล่าวว่ารู้จักชื่อดาวเทียมไทยโชต หรือชื่อภาษาอังกฤษ THEOS ก่อนชื่อ Thailand เสียอีก
ดาวเทียมไทยโชต หรือ THEOS – 1 (ธีออส) เป็นดาวเทียมสำรวจข้อมูลระยะไกลเพื่อใช้สำรวจทรัพยากรธรรมชาติดวงแรกของไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดำเนินงานโดย GISTDA โดยมีงบประมาณ 6,000 ล้านบาท ขึ้นสู่อวกาศเมื่อปี 2551 มีอายุการใช้งาน 5 ปี ซึ่งความจริงแล้วจะหมดอายุการใช้งานตามการออกแบบตั้งแต่ปี 2556 แล้ว แต่เนื่องด้วยยังมีสภาพดีอยู่จึงใช้งานต่อจนปัจจุบัน ทั้งนี้จากสภาพระบบคาดว่าจะใช้งานได้ถึงปี 2560 เท่านั้น จึงมีความจำเป็นต้องจัดหาดาวเทียมดวงใหม่ใช้งานแทนเพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง
ด้วยเหตุนี้ คณะรัฐมนตรีจึงอนุมัติดำเนินโครงการระบบดาวเทียมสำรวจเพื่อการพัฒนา (THEOS – 2) ซึ่งจะขึ้นสู่อวกาศในอีก 5 ปีข้างหน้า คือปี 2559-2563 ด้วยงบประมาณ 7,800 ล้านบาท
ดาวเทียมธีออส - 2 นี้แตกต่างจาก ธีออส – 1 คือจะมีระบบผลิตภาพสำหรับกลุ่มดาวเทียม ระบบรับสัญญาณและผลิตภาพสำหรับหน่วยงานความมั่นคง มี Application ประยุกต์ใช้งานภาพถ่ายดาวเทียมได้ใน 6 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านการเกษตรและความมั่นคงด้านอาหาร เช่น การวางแผนการเพาะปลูก การคาดการณ์ผลผลิตล่วงหน้า 2) ด้านการบริหารจัดการน้ำแบบองค์รวม เช่น เชื่อมโยงข้อมูลแหล่งน้ำ การใช้และกระจายน้ำ 3) ด้านการจัดการภัยพิบัติ เช่น การแจ้งเตือน การอพยพ การบรรเทาผลกระทบจากภัยพิบัติ 4) ด้านทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศน์ เช่น การป้องกันการบุกรุกป่า การบริหารจัดการป่าชุมชน 5) ด้านความปลอดภัยทางสังคมและความมั่นคงของชาติ เช่น เฝ้าระวังพื้นที่ยุทธศาสตร์และชายแดน พื้นที่ทางทะเลและชายฝั่ง รักษาความมั่นคงของทรัพยากรธรรมชาติและผลประโยชน์ทางทะเล และ 6)ด้านการจัดการเมือง เช่น การบริหาร วางแผน ติดตามการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ โครงการเครือข่ายรถไฟความเร็วสูง เขตอุตสาหกรรม โครงสร้างสาธารณูปโภคของเมืองและเขตเศรษฐกิจพิเศษ เป็นต้น
ที่สำคัญคือมีศูนย์วิจัยและพัฒนาดาวเทียมของประเทศ พร้อมห้องปฏิบัติการ การถ่ายทอดเทคโนโลยี ระบบดาวเทียมจำลอง เพื่อสร้างและประกอบดาวเทียมในประเทศเองในอนาคต
โดย ธัญลักษณ์ ฉิมดี
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|