เรื่อง กองทุนหมู่บ้านขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผยว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานเปิดตัวกองทุนหมู่บ้าน (คิกออฟ) เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากภายใต้งบประมาณการพัฒนากองทุนหมู่บ้าน ๑.๕ หมื่นล้านบาท โดยจะมีการคัดเลือกชุมชนหมู่บ้านนำร่อง ๑,๕๐๐ แห่งที่มีศักยภาพ จากทั้งหมดที่มีชุมชนหมู่บ้าน ๒.๒ หมื่นแห่งทั่วประเทศ ซึ่งในจำนวน ๑,๕๐๐ แห่งจะจัดทำโครงการ ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากทั้งตลาดชุมชน ร้านค้าชุมชน ยุ้งฉาง เป็นต้น
รัฐบาลพร้อมแล้วที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ด้วยการใช้ตลาดเป็นตัวนำ และมีภาคีเข้าร่วมกว่า ๕๐ ราย โดยงบประมาณที่นำมาใช้พัฒนากองทุนหมู่บ้าน จำนวน ๑.๕ หมื่นล้านบาทจะนำมาใช้ทุกรูปแบบ ส่วนหนึ่งนำมาพัฒนาตลาดชุมชนที่กองทุนหมู่บ้านจัดตั้งขึ้น ซึ่งถือเป็น ๑ ใน ๔ ตลาดที่กระทรวงพาณิชย์ร่วมมือขับเคลื่อนตลาดชุมชน สำหรับ อีก ๓ ตลาดจะใช้งบประมาณของกระทรวงพาณิชย์จำนวน ๓,๐๐๐ ล้านบาท นำมาขับเคลื่อนตลาดต้องชมหรือตลาดที่จะเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยว ปัจจุบันมีตลาดต้องชมทั้งหมด ๗๗ ตลาด และในปี ๒๕๖๐ ตั้งเป้าเพิ่มตลาดต้องชมอีก ๗๗ ตลาด นอกจากนี้จะผลักดัน ตลาดสินค้าเฉพาะอย่างหรือตลาดที่ต้องสร้างขึ้น โดยในวันที่ ๑๖ มีนาคมที่ผ่านมา ได้เดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่เพื่อผลักดันตลาดทุเรียน และทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยวจีน และตลาดซีฟู้ดจะเปิดตัวที่จังหวัด สุราษฎร์ธานี
ด้านตลาดกลางสินค้าเกษตร จะเป็นอีกตลาดที่จะต้องพัฒนาให้เป็น จุดศูนย์กลางรวบรวมสินค้าจากชุมชนเข้ามาจำหน่าย ถือเป็นการตัดกลไกพ่อค้าคนกลาง และจะส่งเสริมให้เอกชนเข้ามาพัฒนาเป็นตลาดกลางขนาดใหญ่ด้วย
หากสามารถผลักดันตลาดสำเร็จเป็นรูปธรรม จะทำให้เกิดการหมุนเวียน เม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจฐานรากหลายหมื่นล้านบาทต่อปี โดยคำนวณจากเปิดตลาดชุมชน ๑ ตลาด มีการซื้อขาย ๓-๕ แสนบาท/วัน หากมีตลาดแบบนี้ ๑๐๐ แห่ง จะมีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจถึง ๒๐๐ ล้านบาท/เดือน อันเป็นรายได้ที่จะเกิดขึ้นจากการ ซื้อขายภายในชุมชนและการใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวภายในประเทศ.
โดย พรรณี ตั้งใจสถาปัตย์
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|