เรื่อง การปฏิรูปรัฐวิสาหกิจเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
การปฏิรูปรัฐวิสาหกิจรัฐบาลมีความพยายามมากว่า ๒ ปี แต่ยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต้องใช้อำนาจตามมาตรา ๔๔ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเพื่อขับเคลื่อนการลงทุน
นอกจากรัฐบาลจะแก้ปัญหาด้วยวิธีใช้มาตรา ๔๔ และปฏิรูปผ่านการฟื้นฟูรัฐวิสาหกิจแล้ว ยังได้เร่งกระบวนการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจระยะยาว โดยเร่งคลอด ร่างพระราชบัญญัติการพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจออกมาบังคับใช้ให้เร็วที่สุด เพื่อให้รัฐวิสาหกิจขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีเร่งคลอดกฎหมายดังกล่าว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา คาดว่าจะเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน กลางปีนี้
หัวใจสำคัญของร่างพระราชบัญญัติการพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ มีอยู่ ๖ ด้าน ดังนี้.-
-คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) หรือซูเปอร์บอร์ด ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน จะเป็นคณะกรรมการภายใต้กฎหมายใหม่ ทำให้การกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจในเชิงนโยบายมีความต่อเนื่อง
-การทำยุทธศาสตร์ของรัฐวิสาหกิจให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศระยะยาว และแผนการพัฒนาประเทศของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)
-การมีธรรมาภิบาลของรัฐวิสาหกิจ จะมีการแยกบัญชีการดำเนินเชิงพาณิชย์และสังคมให้ชัดเจน
-การคัดเลือกบุคคลเข้ามาเป็นกรรมการ จะมีคณะกรรมการคัดเลือก กำหนดคุณสมบัติ ความสามารถผู้ที่จะเป็นกรรมการให้ชัดเจน ป้องกันฝ่ายการเมืองส่งคนใกล้ชิด เข้ามาหาประโยชน์
-การประเมินผลงานรัฐวิสาหกิจจะดำเนินการอย่างเข้มข้น กำหนดการให้คุณและให้โทษอย่างชัดเจน เพื่อให้เกิดแรงจูงใจในการทำงาน
-การตั้งบรรษัทรัฐวิสาหกิจแห่งชาติ หรือซูเปอร์โฮลดิ้งกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ ที่แปลงสภาพเป็นบริษัทจำกัด และรัฐวิสากกิจที่อยู่ในตลาด ๑๒ แห่ง โดยกระทรวงการคลังจะถือหุ้นในซูเปอร์โฮลดิ้ง ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ การบริหารงานของซูเปอร์โฮลดิ้งจะเป็นภาคเอกชนเต็มตัว โดยกรรมการและกรรมการผู้จัดการจะคัดสรรจากภาคเอกชนทั้งหมด ไม่ให้ข้าราชการการเมืองและข้าราชการประจำมานั่งเป็นกรรมการ
รัฐบาลคาดหวังปฏิรูปรัฐวิสาหกิจทั้งระบบ โดยเฉพาะการตั้งซูเปอร์โฮลดิ้ง เข้ามาบริหารรัฐวิสาหกิจที่แปลงสภาพแล้วให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น หากเพิ่มประสิทธิภาพ ได้มากจะส่งผลดีกับเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม พระราชบัญญัติกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจจะปฏิรูปรัฐวิสาหกิจได้ผลต้องอาศัยระยะเวลานาน และที่สำคัญฝ่ายนโยบายที่เข้ามาบริหารประเทศต่อไปจะให้ความสำคัญกับการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจหรือไม่ยังไม่อาจคาดหวังได้ หากไม่สามารถปฏิรูปให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้จะกระทบการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยทั้งในระยะสั้นและ ในระยะยาว.
โดย พรรณี ตั้งใจสถาปัตย์
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|