เรื่อง   การผลิตปุ๋ยแห่งชาติ

รายงานจากกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) เผยว่า กพร.เตรียมเสนอข้อมูลให้นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม          เสนอรัฐบาลกำหนดให้ไทยมีการผลิตปุ๋ยเพื่อการเกษตรจากแร่หลัก ๓ ชนิด คือ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมเพื่อใช้เองทดแทนการนำเข้าจากประเทศจีน และโมร็อกโก จำนวน ๑ ล้านตัน/ปี เนื่องจากไทยมีศักยภาพในการผลิตแร่โพแทช ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักในการทำปุ๋ย มีสำรองแร่โพแทชสูงสุดเป็นอันดับ ๔ ของโลกอยู่ที่ ๔ แสนล้านตัน รองจากประเทศแคนาดา เบลารุส และประเทศเยอรมนี ภายในเวลา ๒ ปีเอกชนที่ได้ประทานบัตรจะผลิตแร่โพแทชออกสู่ตลาดได้ หากไทยผลิตปุ๋ยได้เองจะส่งผลให้ปุ๋ยราคาถูกลง เป็นผลดีกับเกษตรกรไทย

ปัจจุบันกระทรวงอุตสาหกรรมได้อนุมัติประทานบัตรให้กับเอกชน ๒ ราย  คาดว่าจะผลิตแร่โพแทชออกสู่ตลาดได้ตั้งแต่ปี ๒๕๖๑-๒๕๖๒ คือ โครงการเหมืองแร่โพแทช จ.นครราชสีมา พื้นที่ ๙,๐๐๕ ไร่ ผลิตปุ๋ยโพแทช ๑ แสนตัน/ปี ประทานบัตรอายุ ๒๕ ปี มูลค่าลงทุน ๓,๐๐๐ ล้านบาท และโครงการเหมืองแร่โพแทช จ.ชัยภูมิ พื้นที่ ๙,๗๐๐ ไร่ ผลิตปุ๋ยโพแทช ๑.๑ ล้านตัน/ปี ประทานบัตรอายุ ๒๕ ปีเช่นกัน มูลค่าลงทุน ๔๕,๐๐๐    ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีโครงการอีกจำนวนมากที่อยู่ระหว่างการขอประทานบัตร และขออาชญาบัตรเพื่อสำรวจ คาดว่าภายในปี ๒๕๖๐ จะมีนักลงทุนเพิ่มขึ้นแน่นอน ซึ่ง กพร.ได้     มีการหารือกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เรื่องการส่งเสริมให้ลงทุนในต่างประเทศของอุตสาหกรรมแร่ที่สนับสนุนการผลิตปุ๋ยเพื่อตอบสนองความต้องการใช้  ของเกษตรกรทั่วประเทศ รวมถึงการผลิตเพื่อส่งออกเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับประเทศอีกด้วย

เนื่องจากไทยมีศักยภาพสูงในการผลิตแร่โพแทชที่เป็นวัตถุดิบหลัก แต่ยังต้องนำเข้าวัตถุดิบอื่นคือ ไนโตรเจน และฟอสฟอรัส แผนการผลิตปุ๋ยดังกล่าวสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี (๒๕๕๙-๒๕๗๙) และมั่นใจว่าจะมีส่วนสำคัญในการยกระดับรายได้ของเกษตรกรไทย หากได้ใช้ปุ๋ยราคาถูกที่ผลิตขึ้นภายในประเทศ ทำให้มีรายได้ต่อครัวเรือนเพิ่มขึ้นและช่วยให้ไทย    พ้นกับดักประเทศรายได้ปานกลางเห็นผลภายในช่วง ๕ ปีนับจากนี้ เร็วกว่าการลงทุน       ๑๐ อุตสาหกรรมเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายว่าช่วยยกระดับผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ  (จีดีพี) ของประเทศให้ขยายตัวมากกว่า ๕ เปอร์เซ็นต์ ซึ่งอุตสาหกรรมเป้าหมายจะใช้เวลา   ถึง ๑๐ ปี

อย่างไรก็ตาม แม้ไทยจะมีแร่โพแตชจำนวนมาก แต่อีก ๒ แร่ที่เหลือซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของปุ๋ย คือ ไนโตรเจนจากอุตสาหกรรมปิโตรเคมีมีศักยภาพในการผลิตภายในประเทศต่ำมากประมาณ ๒๐ เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ ๕ แสนตัน/ปี ทำให้ต้องนำเข้าจากต่างประเทศถึง ๘๐ เปอร์เซ็นต์หรือประมาณ ๒ ล้านตัน/ปี ขณะที่แร่ฟอสฟอรัส   ประเทศไทยไม่สามารถผลิตใช้เองได้ต้องนำเข้า ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์หรือประมาณ ๑ ล้านตัน/ปี ซึ่งกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) จะเสนอให้รัฐบาลโดยบีโอไอ ออกสิทธิประโยชน์เพื่อกระตุ้นให้เอกชนไทยออกไปลงทุนต่างประเทศเพื่อผลิตวัตถุดิบปุ๋ย คือ ไนโตรเจนและฟอสฟอรัส และให้นำกลับมาผสมกับแร่โพแตชเพื่อผลิตปุ๋ยสำเร็จรูปในไทยต่อไป.


โดย   พรรณี ตั้งใจสถาปัตย์  
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก