เรื่อง การค้าชายแดนซีแอลเอ็มวี
นอกเหนือจากการขับเคลื่อนพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) แล้ว ยังมีการค้าชายแดนที่เป็นเรื่องหลักที่ประเทศไทยต้องเร่งเดินหน้าให้เกิดการเชื่อมโยงร่วมกัน โดยเฉพาะกลุ่มประเทศคู่ค้าอย่างกัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม (CLMV) ที่บวกประเทศไทยเข้าไปด้วยเป็น (CLMVT)
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทั่วโลกต่างหันมามองที่เอเชียมากขึ้น โดยเฉพาะจีนที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ผลิตชั้นนำของโลกและเป็นผู้นำการค้าเสรี ขณะที่อาเซียนมีอัตราการเติบโตอย่างมาก 7-8 เปอร์เซ็นต์/ปี ทำให้เอเชียจะก้าวขึ้นมาผลักดันเศรษฐกิจโลก หากซีแอลเอ็มวีทีรวมตัวกันติดจะเป็นผู้ประสานความเข้าใจระหว่างจีน อินเดีย เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นให้เข้าร่วมกับอาเซียนอย่างแน่นแฟ้น ที่ผ่านมาไทยส่งออกไปอาเซียน 25 เปอร์เซ็นต์ และ 10 เปอร์เซ็นต์ส่งไปยังซีแอลเอ็มวี เท่า ๆ กับการส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสดีของประเทศไทยที่จะพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางการค้าและการส่งออกในหลายอุตสาหกรรมของภูมิภาค ผนวกรวมกับอีอีซีที่จะเป็นปัจจัยที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการ รวมถึงการเชื่อมโยงเศรษฐกิจการค้าระหว่างไทยและเพื่อนบ้านให้สะดวกมากขึ้น ส่งผลดีต่อการค้าและการลงทุนของประเทศ
สำหรับเอกชนมองว่าภาพรวมการค้าชายแดนระหว่างไทยและกลุ่มประเทศ ซีแอลเอ็มวีในปี 2560 ขยายตัวจากปีก่อนประมาณ 5-10 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ตลาดซีแอลเอ็มวียังเป็นตลาดที่น่าจับตามอง เพราะตัวเลขการเติบโตของจีดีพียังคงเติบโตสูง โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 5-7 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้กำลังซื้อยังสูงอยู่ โดยการค้าระหว่างไทยและซีแอลเอ็มวีน่าจะโตได้ 5-10 เปอร์เซ็นต์ ปัจจัยบวกสำคัญที่จะส่งผลให้การค้าชายแดนปีนี้เติบโตตามเป้าหมายมาจาก
ความต้องการใช้สินค้าของไทยในกลุ่มซีแอลเอ็มวียังสูง โดยเฉพาะสินค้าประเภทวัสดุก่อสร้างทุกประเภทเพื่อรองรับการขยายตัวของกลุ่มประเทศดังกล่าว ประกอบกับสินค้าไทย ยังติดตลาดในด้านคุณภาพที่สูงเมื่อเทียบกับคู่แข่ง และใช้วิธีทำการตลาดเชิงรุกมากขึ้น ผู้ประกอบการรายใหญ่ที่ลงทุนในกลุ่มดังกล่าวมีการชักจูง และช่วยชี้แนะแนวทางให้รายเล็ก ทำให้ผู้ประกอบการไทยมีโอกาสในการเข้าไปขยายตลาดมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม หากต้องพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางต่าง ๆ และเชื่อมโยงกับกลุ่มซีแอลเอ็มวีได้ย่อมจะมีปัจจัยเสี่ยงเข้ามา คู่แข่งที่สำคัญคือจีนที่เริ่มพัฒนา การผลิตแข่งขันกับไทยมากขึ้น อนาคตจีนอาจจะได้เปรียบไทยในเรื่องต้นทุนราคาที่ต่ำกว่าแม้เป็นสินค้าคุณภาพ ดังนั้น ผู้ประกอบการควรเรียนรู้และพัฒนาอยู่ตลอดเวลา.
โดย พรรณี ตั้งใจสถาปัตย์
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|