เรื่อง ตลาดอาหารฮาลาล
ความสำคัญของ “ตลาดอาหารฮาลาล” เป็นตลาดที่มีมูลค่ามหาศาลและผู้ผลิตทั่วโลกให้ความสำคัญเพราะมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายคือชาวมุสลิมกระจายอยู่ทั่วโลกกว่า 1,800 ล้านคน นักวิเคราะห์คาดว่าภายในปี 2030 จำนวนมุสลิมจะเพิ่มขึ้นเป็น 2,200 ล้านคน คิดเป็น 26.4 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งโลก ประเทศไทยได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ของโลก ยังมีผู้ประกอบการไทยไม่น้อยที่เข้าใจผิดเกี่ยวกับหลักการผลิตอาหารฮาลาล และมองไม่เห็นโอกาสทำให้ยังให้ความสำคัญกับตลาดฮาลาลไม่มากเท่าที่ควร อาหารฮาลาล เป็นอาหารบริสุทธิ์ สะอาด ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม เป็นที่ยอมรับทั่วไป ไม่จำกัดอยู่เพียงในหมู่ชาวมุสลิมเท่านั้น
ดร.อณัส อมาตยกุล ประธานหอการค้ามุสลิม (OIC) กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดอาหารฮาลาลมีการเติบโตเด่นชัดเมื่อเทียบกับช่วง 15-20 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากผู้ผลิต ตระหนักว่าผู้บริโภคมีตัวตนจริง อีกประการคือ การรับรองมาตรฐานอาหารฮาลาลทั่วโลกเป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน การผลิตอาหารฮาลาลไม่เป็นเพียงสายส่งให้กับผู้บริโภค ในประเทศเท่านั้น แต่ยังพัฒนาให้เป็นอุตสาหกรรมส่งออกทั่วโลกได้ อย่างไรก็ตามยังมีเงื่อนไขในแต่ละประเทศ เช่น บางประเทศมุสลิมไม่ทานอาหารทะเลที่ไม่ใช่ปลา และไม่ทานปลา ที่มีเกล็ด หากกล่าวว่า อาหารฮาลาลเป็นเทรนด์ใหม่ของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน เพราะอาหารฮาลาลไม่เพียงมุสลิมเท่านั้นที่รับประทานได้ ศาสนาอื่นที่ชื่นชอบในรสชาติและใส่ใจในเรื่องสุขภาพ อาหารฮาลาลเป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้นของผู้บริโภคเช่นกัน
ดร.อณัส ยังกล่าวว่า แม้ไทยจะไม่ใช่ประเทศมุสลิม แต่ที่ผ่านมาได้รับชื่อเสียงในเรื่องการใส่ใจกับตลาดฮาลาลมากขึ้นนอกเหนือจากเป็นประเทศโด่งดังในเรื่องความหลากหลายด้านอาหาร และต่างประเทศชื่นชมด้านนวัตกรรมแปรรูปอาหารของไทย สิ่งสำคัญ
ที่ทั่วโลกยอมรับคือ ไทยเป็นประเทศแรกที่นำหลักการทางวิทยาศาสตร์มาเป็นเครื่องมือตรวจสอบอาหารฮาลาล ความจริงแล้วหลักของอาหารฮาลาลต้องรับรองเฉพาะวิธีการผลิตเท่านั้น คือ การเชือดสัตว์หรือฆ่าสัตว์ที่ให้ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม แต่ไทยเป็นประเทศเดียวในโลกที่ต้องขอตรารับรองฮาลาลให้กับผู้ผลิตผลิตภัณฑ์อาหารอื่น เช่น มะม่วงกวน ทุเรียนกวน หรือขนมประเภทอื่น เพราะวิถีท้องถิ่นของคนไทยอาจขัดกับหลักฮาลาล เช่น ขนมบางประเภทของไทยจะนำน้ำมันหมูมาทำ หรือใช้น้ำมันหมูทาปลาสลิดตากแห้งเพื่อป้องกันแมลงวันตอม เป็นต้น
สำหรับประเทศไทยที่อุตสาหกรรมอาหารของไทยได้รับชื่อเสียง หากปรับเปลี่ยนวิธีหรือแนวการปฏิบัติในทุกขั้นตอนการผลิต โอกาสที่ไทยจะเป็นผู้ส่งออกอาหารฮาลาลติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลกอาจเข้าใกล้ความจริง ที่ผ่านมามีเพียงผู้ประกอบการ รายใหญ่ที่กระตือรือร้นต่อยอดขยายธุรกิจ ส่วนผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็กยังขาดความรู้ความเข้าใจโดยแท้ ทำให้มีสัดส่วนน้อยมากของผู้ประกอบการที่เห็นโอกาสตลาด และต่อยอดสร้างรายได้ให้กับธุรกิจ ประกอบกับการสนับสนุนของภาครัฐไม่เพียงพอ ขณะที่นโยบายการค้าเน้นให้ความสำคัญกับประเทศเศรษฐกิจใหญ่ เช่น ยุโรป จีน และสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก ความไม่รู้และไม่คุ้นชินทำให้ผู้ประกอบการไม่ตระหนักถึงความสำคัญตลาดมุสลิมเท่าที่ควร ประกอบกับรัฐบาลไทยยังไม่มีวัฒนธรรมการค้ากับมุสลิม ผลที่ตามมาคือ ขาดการเรียนรู้ระหว่างกัน ส่งผลต่อการเจรจาทางการค้า ขาดความกระตือรือร้น การแก้ไขปัญหา ให้ถูกจุดถือเป็นการเริ่มต้นการปฏิรูปที่ถูกต้อง ช่วยให้ไทยก้าวทันเทรนด์ตลาดฮาลาลมากขึ้น.
โดย พรรณี ตั้งใจสถาปัตย์
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|