เรื่อง ครม.เห็นชอบคืนสิทธิ์ผู้ประกันตนตามมาตรา 39
ครม.มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ในการแก้ไขพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2537 เพื่อคืนสิทธิ์ผู้ประกันตนตามมาตรา 39 จำนวนกว่า 930,000 คน ที่ลาออกจากการเป็นลูกจ้างแต่ยังส่งเงินสมทบเดือนละ 432 บาท ให้ได้สิทธิประโยชน์ต่อเนื่อง
นายแพทย์ สุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ชี้แจงว่า การแก้ไขพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2537 ผ่านความเห็นชอบจาก ครม. แล้ว เพื่อคืนสิทธิ์ผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ที่ลาออกจากการเป็นลูกจ้าง แต่ยังส่งเงินสมทบต่อเดือนละ 432 บาท โดยผู้ประกันตนจะได้รับสิทธิประโยชน์อย่างต่อเนื่องใน 6 กรณี คือ เจ็บป่วย ทุพพลภาพ คลอดบุตร สงเคราะห์บุตร เสียชีวิต และบำนาญชราภาพ ยกเว้นกรณีว่างงาน เนื่องจากไม่มีนายจ้างและขาดการส่งเงินสมทบ ซึ่งผู้ประกันตนที่ถูกตัดสิทธิ์ไปก่อนหน้านี้มีรวมกว่า 930,000 คน โดยผู้ประกันตนที่ถูกตัดสิทธิ์สามารถไปยื่นสิทธิ์ขอคำร้อง คืนสิทธิ์เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ได้ที่สำนักงานประกันสังคมทุกแห่งทั่วประเทศ โดยไม่มีการเรียกเก็บเงินย้อนหลัง
สำหรับการดำเนินการในระยะสั้นกรณีที่ผู้ประกันตนเดิมขาดสิทธิ์หรือลืมจ่ายเงินสมทบ เบื้องต้นสำนักงานประกันสังคมจะพิจารณาคืนสิทธิ์ให้ทุกคนอย่างเท่าเทียม เพื่อให้กลับเข้าสู่ระบบอย่างเร็วที่สุด โดยปัจจุบันมีผู้ประกันตนตามมาตรา 39 อยู่ในระบบประมาณ 1 ล้านราย ส่วนผู้ที่หลุดออกจากระบบประมาณ 930,000 ราย
สาเหตุหลักของการขาดสิทธิ์ คือ ประชาชนลืมจ่ายเงินสมทบหรือบางรายไม่มีเงินจ่าย ซึ่งในระยะสั้นจะคืนสิทธิ์ให้ก่อน จากนั้นจะมีระบบแจ้งเตือนเป็นข้อความทางโทรศัพท์มือถือ ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาวจะมีการปรับปรุงกฎหมายหรือพระราชบัญญัติ
ประกันสังคมเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก โดยอาจจะต้องพิจารณาเพื่อเปิดช่องว่างว่าบุคคลจะเข้าออกระบบอย่างไร และบุคคลที่อยู่มาอย่างสม่ำเสมอจะได้รับความเป็นธรรมอย่างไร โดยมีหลักการคืนสิทธิ์ผู้ประกันตนตามมาตรา 39 อย่างเท่าเทียมกัน
ทั้งนี้ผู้ประกันตนตามมาตรา 39 (ผู้ประกันตนโดยสมัครใจ) ที่จะได้รับการ คืนสิทธิ์ ต้องเป็นผู้ที่ประกันตนตามมาตรา 39 (มีนายจ้าง) และนำส่งเงินสมทบเข้ามาแล้ว ไม่ต่ำกว่า 12 เดือน ออกจากงานแล้วไม่เกิน 6 เดือน ซึ่งภายหลังจากยื่นใบสมัครแล้ว จะต้องจ่ายเงินสมทบเดือนละ 432 บาท ซึ่งผู้ประกันตนสามารถชำระเงินสมทบด้วยวิธีหักบัญชี เงินฝากธนาคาร ได้แก่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน ) ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย( จำกัดมหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) ธนาคารทหารไทย จำกัด( มหาชน) ซึ่งจะหักเงินในบัญชีทุกวันที่ 15 ของเดือน หรือชำระผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส/เคาน์เตอร์ที่ทำการไปรษณีย์ทุกที่
โดย นางสาวธนัชพร ถ้ำสิงห์
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|