เรื่อง EEC ประตูสำคัญสู่ไทยแลนด์ 4.0
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 และการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor Development หรือ EEC) เป็นอาวุธที่รัฐบาลปัจจุบันใช้บอกคนไทยและชาวโลกว่า ประเทศไทยกำลังเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุทธศาสตร์การค้าและการลงทุนที่โดดเด่นใน AEC และไทยจะหลุดจากกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลาง (Middle Income Trap) ในอนาคตอันใกล้เพื่อมุ่งไปสู่ประเทศที่พัฒนาแล้วภายใน 20 ปีข้างหน้า
EEC เป็นประตูเชื่อมไทยสู่โลก และเปิดโลกเข้าสู่ AEC ผ่านระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ตลอดจนมุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศด้วยนวัตกรรม (Innovation Driven Economy) ผ่านผู้ประกอบการที่เน้นการขับเคลื่อนธุรกิจโดยเน้นนวัตกรรม เมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะเดินทางไปท่าอากาศยาน อู่ตะเภา จ.ระยอง เพื่อเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก รวมถึงตรวจเยี่ยมโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาเพื่อรองรับการพัฒนา EEC การลงพื้นที่นี้สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนไทยและเทศมีความมั่นใจว่ารัฐบาลมีแนวนโยบายพร้อมประกาศเจตนารมณ์ชัดเจนว่าต้องการสร้างฐานเศรษฐกิจ ในประเทศเชื่อมโยงเศรษฐกิจฐานราก เน้นการเติบโตภายในให้เข้มแข็งเพื่อก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 โดย EEC ถือเป็นก้าวแรกของการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูง ไม่ติดกับดักประเทศรายได้ปานกลาง
โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยอง โดยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน
ต่างชาติเข้ามาลงทุนพื้นที่ดังกล่าว ทั้งนี้ รัฐบาลลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ ที่สนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งอนาคตเพื่อรองรับการลงทุนใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ที่เรียกว่า First S-curve และ New S-curve ประกอบด้วย อุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม, อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่, อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะและหุ่นยนต์, อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร, การเกษตรเทคโนโลยีชีวภาพ, เชื้อเพลิงและเคมีชีวภาพ, อุตสาหกรรมการบิน, อุตสาหกรรมโลจิสติกส์, อุตสาหกรรมดิจิทัล และการแพทย์ครบวงจร
ทั้งนี้ เป้าหมายการลงทุนในพื้นที่ EEC มีไม่น้อยกว่า 1.5 ล้านล้านบาทภายใน 5 ปีข้างหน้า แบ่งเป็นการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมาย การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การลงทุนเพื่อการพัฒนาเมืองใหม่ โรงพยาบาล โรงเรียน ที่อยู่อาศัย และการลงทุนด้านการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพและสุขภาพ พื้นที่ 3 จังหวัดใน EEC จะแบ่งเขตส่งเสริมและพัฒนาเป็น 6 เขต
-เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษไบโอเทคโนโลยีและอาหาร จ.ฉะเชิงเทรา
-เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษยานยนต์อนาคต จ.ชลบุรี
-เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี
-เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษอุปกรณ์อากาศยาน จ.ระยอง
-เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและไบโออีโคโนมี จ.ระยอง
-เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษสนามบินอู่ตะเภา และพื้นที่ข้างเคียง จ.ระยอง
ในช่วงการพัฒนาโครงการ EEC ระหว่างปี 2560-2565 ใช้เงินลงทุนสูงถึง 1.5 ล้านล้านบาทนั้น รัฐบาลหวังว่าจะยกระดับอัตราการเจริญเติบโตเศรษฐกิจไทยจาก 3 เปอร์เซ็นต์สู่ระดับ 5 เปอร์เซ็นต์ต่อปี และสร้างงานใหม่ปีละ 1 แสนอัตรา สร้างฐานภาษีใหม่ปีละ 1 แสนล้านบาท ลดค่าใช้จ่ายด้านโลจิสติกส์ปีละ 4 แสนล้านบาท อีกทั้งเป็นก้าวย่างสำคัญทำให้ประเทศไทยเข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 รวดเร็วขึ้น.
โดย พรรณี ตั้งใจสถาปัตย์
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|