เรื่อง   รัฐบาลยกปัญหาผักตบชวาเป็น 'วาระแห่งชาติ'ประกาศเขตปลอดผักตบชวา 30 กันยายน นี้

  ผักตบชวาเป็นพืชที่เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ผักตบชวา 1 ต้น สามารถให้เมล็ดได้ถึง 5,000 เมล็ด ผักตบชวา 10 ต้น จึงแพร่กระจายได้ถึง 1 ล้านต้น ภายใน 1 ปี

ผักตบชวาเป็นวัชพืชร้ายแรงอันดับ 8 ของโลก และกำลังเป็นปัญหาระดับชาติของไทยที่ยังไม่สามารถจัดการได้ ทำให้ผักตบชวากระจายพันธุ์ในแม่น้ำสายหลัก โดยเฉพาะพื้นที่ ภาคกลาง ทำให้ที่ผ่านมาประเทศไทยต้องสูญเสียงบประมาณในการกำจัดผักตบชวาและวัชพืชในแหล่งน้ำกว่า 2,000 ล้านบาท

รัฐบาลโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกำหนดให้การแก้ไขปัญหาผักตบชวาเป็นวาระแห่งชาติที่ทุกหน่วยงานจะต้องช่วยกันบูรณาการ กำหนดแผนงาน ความรับผิดชอบให้สอดคล้องกัน เป็นการแก้ปัญหาแบบองค์รวม ทั้งนี้ได้แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการบูรณาการเพื่อแก้ไขปัญหาผักตบชวา ซึ่งมี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ                รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกำกับดูแล ดำเนินการแก้ไขปัญหาผักตบชวาที่มีอยู่ทั่วลำน้ำทั้งประเทศกว่า 5.22 แสนกิโลเมตร ให้หมดไปอย่างเร่งด่วน

คณะกรรมการอำนวยการเพื่อแก้ไขปัญหาผักตบชวา ได้กำหนดระยะเวลาให้มีมาตรการกำจัด (เก็บใหญ่) ระหว่างเดือนตุลาคม 2559 - มีนาคม 2560 และมาตรการป้องกัน (เก็บเล็ก) โดยให้จังหวัดและ อปท. ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ป้องกันการเติบโตและขยายพันธุ์ในทุกสัปดาห์ หลังจากการดำเนินงานกำจัดผักตบชวาในพื้นที่ที่รับผิดชอบของแต่ละหน่วยงานแล้ว ในระยะต่อไปจะเป็นเรื่องของมาตรการป้องกันและเฝ้าระวังไม่ให้ผักตบชวาแพร่กระจายอีก เพื่อประกาศเขตปลอดผักตบชวาให้ได้ภายใน 30 กันยายนนี้

กรมชลประทานเป็นหนึ่งในหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบการแก้ไขปัญหาผักตบชวาโดยมีพื้นที่รับผิดชอบแม่น้ำป่าสัก แม่น้ำน้อย แม่น้ำนครนายก         แม่น้ำท่าจีนบางส่วน รวมถึงแหล่งน้ำ คู คลองที่ขึ้นทะเบียนเป็นของกรมชลประทานทั้งหมด ได้เร่งนำเครื่องจักรลงพื้นที่ดำเนินการกำจัดผักตบชวา ขณะนี้สามารถดำเนินการได้ประมาณ 1.44 ล้านตัน จากแผนที่กำหนดไว้ 2.77 ล้านตัน มั่นใจว่าจะดำเนินการได้ตามแผนที่กำหนดประกาศพื้นที่เขตปลอดผักตบชวาภายใน 3๐กันยายนนี้

           ปัญหาผักตบชวาจึงเป็นปัญหาสำคัญที่รัฐบาลยกขึ้นเป็นวาระแห่งชาติที่     ทุกหน่วยงานจะต้องช่วยกันเพื่อแก้ไขปัญหาเพื่อกำจัดผักตบชวาที่มีอยู่ทั่วลำน้ำทั้งประเทศ   ให้หมดไป พร้อมทั้งจะจัดทำแผนดำเนินการกำจัดผักตบชวาในแหล่งน้ำปิดขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ไม่เกิน 200 ไร่ เพื่อประกาศ  เป็นเขตปลอดผักตบชวา ภายในปี 2561 และในพื้นที่แหล่งน้ำขนาดใหญ่ เช่น กว๊านพะเยา บึงสีไฟ หนองหาน ให้เป็นเขตปลอดผักตบชวาภายในระยะเวลา 2 - 5 ปี ต่อไป


โดย   ธนัชพร  ถ้ำสิงห์
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก