เรื่อง 50 คำถามให้คิด ไม่ต้องตอบ
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” เมื่อวันศุกร์ที่ 16 มิถุนายน 2560 ที่ผ่านมาว่า ถ้าเปรียบประเทศชาติเป็นเหมือนนักกีฬา โลกปัจจุบันเต็มไปด้วยการแข่งขัน เราจะร่วมกันนำประเทศไปสู่ความสำเร็จได้อย่างไร ส่วนตัวประเทศไทยเปรียบเสมือนนักกีฬาป่วยที่ต้องรักษาตามอาการ คือ ป่วยกาย ป่วยใจ และป่วยทางความคิด
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลพยายามพลิกฟื้นสถานการณ์จนได้รับความเชื่อมั่นจากเวทีระหว่างประเทศ นายกรัฐมนตรีได้ฝากให้คิดตาม ใน 50 ประเด็น ไม่ใช่คำถาม ไม่ต้องการคำตอบ เพื่อจะได้เข้าใจว่ารัฐบาลมองปัญหาประเทศ ตั้งเป็นโจทย์ทำงานขับเคลื่อนประเทศ ถ้าท่านมีโอกาสเป็นรัฐบาลจะทำอย่างไรเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
การพัฒนาประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน ต้องมีการพัฒนาภาค กลุ่มจังหวัด จังหวัด ชุมชน ท้องถิ่นไปพร้อมกัน ทำให้เศรษฐกิจระดับมหภาคและระดับฐานรากดีขึ้น การเชื่อมห่วงโซ่มูลค่า และการกระจายรายได้ การกระจายรายได้และความเจริญลงไปสู่พื้นที่ทุกระดับอย่างทั่วถึง การใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ-รัฐวิสาหกิจจะต้องคุ้มค่า โปร่งใส การเพิ่มรายได้ภาครัฐ เพื่อเป็นงบประมาณให้เพียงพอเพื่อรองรับระบบสวัสดิการของรัฐ ทำให้ผู้มีรายได้น้อย มีเงินเพียงพอต่อการดำรงชีวิต การดูแลประชาชนทุกกลุ่มให้ทั่วถึงภายใต้งบประมาณจำกัด การดูแลผู้มีรายได้น้อยทุกกลุ่ม ให้มีทางเลือกใหม่ มีโอกาสหันมายึดอาชีพสุจริต การพัฒนาประเทศต้องดำเนินการควบคู่ไปทั้งมิติเศรษฐกิจและสังคม การใช้ทรัพยากรธรรมชาติของประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ การปกป้องผืนป่าไม่ให้ถูกบุกรุก การรักษาบ้านเมืองให้เกิดความสงบ ทำให้คนไทยรู้จักคำว่าพอเพียง คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติมาก่อนผลประโยชน์ส่วนตน เคารพกฎหมายด้วยความสำนึกดีมีคุณธรรม จริยธรรม รู้จักลดอัตตา ไม่เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง ต้องให้ความสำคัญกับส่วนรวม มีจิตสำนึกที่ดี มีอุดมการณ์ ความเสียสละ ซื่อสัตย์ สุจริต เผื่อแผ่แบ่งปัน และไม่ลืมอัตลักษณ์ความเป็นไทย
การลดปัญหาสังคม การสร้างกลไกในการป้องกันคนไม่ดี ที่จะใช้ช่องว่างทางกฎหมายเพื่อแสวงหาประโยชน์ ภาคภูมิใจความเป็นชาติควบคู่ไปกับการปรับตัวให้ดำรงชีวิตเหมาะสม ทำให้เด็กและเยาวชนเจริญเติบโตบนพื้นฐานความรู้คู่คุณธรรม สร้างกระบวนการเรียนรู้ สร้างความเชื่อใจกันในสังคมเพื่อจะลดความหวาดระแวงระหว่างกัน เชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรม ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐได้รับความไว้วางใจ ทำให้บ้านเมืองเป็นระเบียบ สะอาด สวยงาม สร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชนในการเสพสื่อและโซเชียล ตระหนักและให้ความสำคัญการรักษาสุขภาพ การเรียกร้องสิ่งที่ไม่ถูกไม่ควรเป็นไปไม่ได้อาจมีผลกระทบ กับผู้อื่น ทำให้ประชาชนมีความสุข สังคมไทยมีความเท่าเทียมกันระหว่างเพศ คนไทยช่วยกันลดขยะ เข้าใจหลักการประชาธิปไตย และเข้าใจว่าประชาพิจารณ์ ประชามติ ประชาธิปไตยคืออะไร ไม่ให้ใครบิดเบือน “ข้อเท็จจริง” ทุกภาคส่วน มีคุณธรรม จริยธรรม ทำให้ภาคเอกชน ประชาสังคม และเอ็นจีโอได้ร่วมมือกับภาครัฐทำงานเพื่อชาติ สร้างความมั่นคงด้านพลังงาน เข้าใจถึงปัญหาของประเทศชาติ หากว่าต่างคนต่างคิดจะปฏิรูปไม่ได้ ปรับปรุงกฎหมายให้ทันสมัยเป็นธรรม แก้ไขปัญหาประเทศดำเนินการตามพันธสัญญาของประชาคมโลก ใช้ประโยชน์จากภูมิรัฐศาสตร์ ทำให้ไทยซีแอลเอ็มวีอาเซียนเข้มแข็งไปด้วยกัน ยกระดับฐานะในเวทีระหว่างประเทศ ทำให้ไทย ไม่ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งใด ๆ กับส่วนอื่นในโลก สามารถก้าวไปสู่ความเป็นผู้นำ ทำให้สื่อมวลชน โซเชียล และคนไทยตระหนักรู้ เข้าใจถึงผลกระทบจากการเสนอข่าว ทำให้คนไทยยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจตลอดไป
เป็นข้อคำถามที่ให้ประชาชนได้ลองคิด ซึ่งจะได้เข้าใจแนวทางการดำเนินงานของรัฐบาลมากยิ่งขึ้น ซึ่งรัฐบาลหวังเพียงการสนับสนุนของประชาชนเพื่อให้ประเทศชาติดีขึ้นสามารถดำเนินงานไปได้อย่างราบรื่น.
โดย พรรณี ตั้งใจสถาปัตย์
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|