เรื่อง นำร่อง 4 โครงการอีอีซี สนามบิน-รถไฟ-ท่าเรือ
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ในฐานะรองประธานอนุกรรมการจัดทำระเบียบการร่วมทุนเอกชนในการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบาย การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (คณะกรรมการนโยบายอีอีซี) ครั้งที่ 2/2560 เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2560 ได้เห็นชอบร่างประกาศเรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และกระบวนการในการร่วมลงทุนกับเอกชนหรือให้เอกชนเป็นผู้ลงทุน พ.ศ... (ระเบียง EEC Track) ตามที่ สคร.ได้ยกร่างขึ้นเพื่อยกระดับกฎหมายร่วมทุนในระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ให้เป็นมาตรฐานสากล โปร่งใส และรวดเร็ว พร้อมสนับสนุนให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนพัฒนา EEC โดยผ่านหลักการ 5Cs ประกอบด้วย
-Certainty การสร้างความชัดเจนในการพัฒนาโครงการและมาตรการส่งเสริมให้เอกชนร่วมลงทุนในอีอีซี
-Consolidation การบูรณาการการทำงานร่วมกันของทุกหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดความซ้ำซ้อน ไม่จำเป็น
-Concurrence การดำเนินการคู่ขนานพร้อมรับฟังความคิดเห็นภาคเอกชนและภาครัฐในทุกขั้นตอนเพื่อสร้างความเป็นหุ้นส่วนระหว่างรัฐและเอกชนที่แท้จริง
-Check & Balance การเปิดเผยข้อมูล โปร่งใส และตรวจสอบได้ เปิดเผยข้อมูลโครงการให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน และสาธารณะ รวมทั้งให้นำแนวทางและวิธีการในการดำเนินการป้องกันการทุจริตหรือข้อตกลงคุณธรรมมาใช้ด้วย
-Commitment การกำหนดหน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการที่ชัดเจน เพื่อให้เกิดความมุ่งมั่นและรับผิดชอบในความสำเร็จของโครงการ
ทั้งนี้ ระเบียบ EEC Track ใช้เฉพาะกับโครงการระดมทุนเพื่อการลงทุนภาครัฐ เป็นเงินลงทุนจำนวนมากที่ภาครัฐเพียงอย่างเดียวไม่สามารถระดมทุนได้เพียงพอเนื่องจาก ข้อจำกัดในการกู้เงิน และการดำเนินนโยบายการลงทุนต้องคำนึงถึงเสถียรภาพฐานะการคลังของประเทศ ดังนั้น จึงมีความจำเป็นต้องพึ่งพาการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน (Public-Private-Partnership : PPP) ทั้งนี้ PPP เป็นรูปแบบที่ภาครัฐให้เอกชนมีส่วนร่วม ในการดำเนินโครงการให้บริการสาธารณะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและบริการ มุ่งเน้นให้บริการที่มีประสิทธิภาพคุ้มค่ากับต้นทุน มากกว่าภาครัฐดำเนินการเอง ด้วยเหตุนี้ ภาครัฐจึงจำเป็นต้องเร่งเพิ่มบทบาท PPP มากขึ้นเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการลงทุน ในโครงสร้างพื้นฐานในอนาคต เป็นโครงการที่สำคัญและมีความพร้อมตามแผนการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC Project List) เท่านั้น ส่วนโครงการ PPP อื่น ๆ ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556) เช่นเดิม
นางปานทิพย์ ศรีพิมล ที่ปรึกษาด้านพัฒนารัฐวิสาหกิจ กล่าวเสริมว่า คณะกรรมการนโยบาย EEC ได้กำหนดโครงการ EEC Project List จำนวน 4 โครงการ ได้แก่
โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก, โครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบิน, โครงการท่าเรือแหลมฉบัง ระยะ 3, โครงการท่าเรือมาบตาพุด ระยะ 3
รวมวงเงินลงทุนทั้งสิ้น 691,471 ล้านบาท
ขณะเดียวกันสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) อยู่ระหว่างปรับปรุงพระราชบัญญัติร่วมลงทุนฯ ปี 2556 เพื่อให้เกิดความชัดเจน คล่องตัว โปร่งใส และสามารถสนับสนุนให้โครงการร่วมลงทุนเกิดได้เร็วและได้มาตรฐานสากล.
โดย พรรณี ตั้งใจสถาปัตย์
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|