เรื่อง บูรณาการ “ศาสตร์พระราชา” แก้ปัญหาลุ่มน้ำยม
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระราชทานแนวพระราชดำริ “ศาสตร์พระราชา” ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้งซ้ำซากแบบยั่งยืนว่า “.....ต้องมีการดำเนินการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบครบวงจร ทั้งการก่อสร้างเขื่อนกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ อ่างเก็บน้ำสาขาของแม่น้ำยม การผันน้ำระหว่างลุ่มน้ำ ตลอดจนการขุดลอกคู คลอง หนอง บึง เพื่อกักเก็บน้ำและระบายน้ำในช่วงหน้าน้ำหลาก....”
กรมชลประทานได้นำ “ศาสตร์พระราชา” มาแก้ปัญหาลุ่มน้ำยม ทั้งดำเนินการพัฒนาแหล่งน้ำ สร้างอ่างเก็บน้ำขนาดกลางในสาขาลุ่มน้ำยม และจะดำเนินการก่อสร้างอีกหลายแห่ง การผันน้ำเชื่อมโยงระหว่างลุ่มน้ำน่านกับลุ่มน้ำยม การขุดลอกคูคลอง หนอง บึง เพื่อกักเก็บน้ำ และได้ต่อยอดวางแผนดำเนินโครงการแก้มลิงพื้นที่ลุ่มต่ำ เหนือจังหวัดนครสวรรค์ มากถึง 69 แห่งในเขตจังหวัดสุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร และจังหวัดนครสวรรค์ สามารถเก็บกักน้ำไว้ชั่วคราวเพื่อรอการระบายได้ 2,049 ล้านลูกบาศก์เมตร จะเหลือแต่การสร้างเขื่อนกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการพัฒนาลุ่มน้ำยม ลุ่มน้ำยมเป็น 1 ใน 25 ลุ่มน้ำหลักของประเทศไทย ตั้งอยู่ทางตอนเหนือ มีพื้นที่รวมทั้งสิ้น 23,618 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุม 10 จังหวัดคือ จังหวัดพะเยา น่าน ลำปาง แพร่ ตาก กำแพงเพชร สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร และจังหวัดนครสวรรค์ ลักษณะของลุ่มน้ำวางตัวแนวเหนือ-ใต้ ลุ่มน้ำยมมีปัญหาทั้งน้ำท่วมและน้ำแล้งรุนแรงเนื่องจากขาดแหล่งกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ ในช่วงฤดูแล้งเกือบตลอดแนวแม่น้ำยมตอนล่างมีสภาพแห้งขอด จำเป็นจะต้องบริหารจัดการน้ำร่วมกับลุ่มน้ำน่านเนื่องจากมีแหล่งน้ำต้นทุนขนาดใหญ่ สามารถควบคุมการบริหารน้ำได้ ในช่วงฤดูน้ำหลากจะชะลอการปล่อยน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดนเพื่อผันน้ำจากแม่น้ำยมไปยังแม่น้ำน่านให้ช่วยระบายน้ำได้มากขึ้นส่วนฤดูแล้งก็ผันน้ำจากลุ่มน้ำน่านช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำของ ลุ่มน้ำยม อย่างไรก็ตาม การบริหารจัดการน้ำตามแนวทางดังกล่าว แก้ปัญหาได้บางส่วน ต้องพัฒนาอาคารบังคับน้ำ ไม่ว่าจะเป็นฝายหรือประตูระบายน้ำเพื่อให้การบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำยมตอนล่าง และการบริหารจัดการร่วมกับลุ่มน้ำน่านมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เผยว่า กรมชลประทานมีแผนที่จะสร้างอาคารบังคับน้ำประเภทประตูระบายน้ำในแม่น้ำยมตอนล่างเพิ่มขึ้นอีก 4 แห่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ประกอบด้วย
-โครงการประตูระบายน้ำท่าแห ต.กำแพงดิน อ.สามง่าม จ.พิจิตร ครอบคลุมพื้นที่ ต.บางระกำ ต.ปลักแรด ต.วังอิทก ต.พันเสา ต.บ่อทอง ต.ท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก และ ต.กำแพงดิน อ.สามง่าม จ.พิจิตร
-โครงการฝายบ้านวังจิก ต.วังจิก อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร ครอบคลุมพื้นที่ ต.บ้านนา อ.วชิรบารมี ต.รังนก ต.เนินปอ ต.วังจิก ต.ไผ่รอบ ต.โพธิ์ประทับช้าง อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร
-โครงการประตูระบายน้ำท่านางงาม ต.ท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ครอบคลุมพื้นที่ ต.ชุมแสงสงคราม ต.ท่านางงาม ต.คุยม่วง ต.บางระกำ ต.บึงกอก อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก
-โครงการประตูระบายน้ำโพธิ์ประทับช้าง ต.ไผ่ท่าโพ อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร ครอบคลุมพื้นที่ ต.วังจิก ต.ไผ่ท่าโพ อ.โพธิ์ประทับช้าง ต.บางลาย อ.บึงนาราง จ.พิจิตร
การดำเนินการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมทั้ง 4 แห่งในลุ่มน้ำยมตอนล่าง ได้ศึกษาครอบคลุมทุกด้าน ทั้งด้านทรัพยากรธรรมชาติ ด้านเศรษฐกิจและสังคม ให้ประชาชน องค์กรพัฒนาเอกชน หน่วยงานต่าง ๆ เข้าร่วมแสดงความคิดเห็น นำเสนอข้อมูล ข้อโต้แย้ง ข้อเสนอแนะ ประชาชนในพื้นที่เห็นด้วยที่จะให้กรมชลประทานดำเนินการก่อสร้าง จากนั้นจะสรุปเรื่องนำเสนอต่อสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.)
โดย พรรณี ตั้งใจสถาปัตย์
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|