เรื่อง : วันอาหารโลก (World Food Day)
อาหารเป็นปัจจัยหลักสำคัญในการดำรงชีวิตของมนุษย์ โดยอาหารช่วยทำให้ร่างกายเจริญเติบโต แข็งแรง สมบูรณ์ สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ แต่ปัจจุบันพบว่าประชากรโลกประมาณ 870 ล้านคน หรือ 1 ใน 8 คน ของประชากรโลกทั้งหมดยังอยู่ ในสภาวะการอดอยากหิวโหยอยู่ แต่เหตุการณ์นี้มีมาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ สิ้นสุดลง ประชากรโลกประสบความทุกข์ยากจากปัญหาความหิวโหยและอดอยาก จนต้องมีการปันส่วนอาหาร ทำให้วันที่ ๑๖ ตุลาคม ค.ศ. ๑๙๔๕ ได้มีการจัดตั้งองค์การอาหารและเกษตร แห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the United Nations : FAO) ปัจจุบันสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ กรุงโรม ประเทศอิตาลี มีสมาชิก จำนวน ๑๕๘ ประเทศ แต่เดิมองค์การนี้เป็นหน่วยงานพิเศษของสหประชาชาติ มีเป้าหมายในการพัฒนามาตรฐานอาหารและสารอาหาร รวบรวม วิเคราะห์ และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารด้านโภชนาการ อาหาร การเกษตร ป่าไม้ และประมงให้ประเทศต่าง ๆ เพื่อนำไปใช้เป็นข้อมูลประกอบการกำหนดนโยบายการเกษตร ต่อมาจึงกำหนดให้ วันที่ ๑๖ ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันอาหารโลก (World Food Day) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเร่งเร้าให้ประเทศต่าง ๆ มีจิตสำนึกเรื่องอาหาร การพัฒนาการเสริมสร้างความสมานฉันท์ระดับชาติและนานาชาติในการต่อสู้กับ ความอดอยากหิวโหย ทุพโภชนาการและความยากจน สำหรับประเทศไทยเข้าเป็นสมาชิก เมื่อวันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๔๙๐ ลำดับที่ 45
หากพูดถึงความมั่นคงทางอาหารของประเทศไทยแล้ว คณะกรรมการที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อน ก็คือ คณะกรรมการอาหารแห่งชาติ ซึ่งได้มีการประชุมและเห็นชอบการขับเคลื่อนร่างยุทธศาสตร์การจัดการด้านอาหารของประเทศไทย ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2560-2579) เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2560 โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้ (1) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการฐานทรัพยากรในการผลิตอาหารของประเทศ ให้เกิดประโยชน์ทางด้านความมั่นคงด้านอาหารและโภชนาการ ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว วัฒนธรรม การค้า และธำรงสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน (2) เพื่อให้อาหารที่ผลิตทุกระดับตั้งแต่ระดับครัวเรือน ชุมชน ท้องถิ่น และอุตสาหกรรมมีความพอเพียง มีมูลค่าเพิ่ม มีคุณภาพ ปลอดภัยและมีคุณค่าทางโภชนาการ เพื่อสุขภาพของผู้บริโภคและความเข้มแข็งทางการค้ายุคใหม่ (3) เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ตลอดห่วงโซ่อาหาร โดยกระบวนการศึกษาวิจัย และเผยแพร่เพื่อใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพ (4) เพื่อเป็นกลไกในการรวมพลังของภาคีเครือข่ายและยุทธศาสตร์ด้านอาหารที่หลากหลาย ให้เชื่อมโยงและขับเคลื่อนการบริหารจัดการด้านอาหารอย่างมีเอกภาพ และ (5) เพื่อก่อให้เกิดความมั่นคงด้านอาหารและโภชนาการในระดับครัวเรือน ชุมชนและระดับชาติ ทั้งในภาวะปกติและภาวะวิกฤติ
นับว่า เป็นความท้าทายของภาครัฐและเป็นก้าวสำคัญอีกก้าวหนึ่งที่ประชาชนทั้งประเทศต้องการเห็นความสำเร็จ แต่หากความสำเร็จนี้เราต้องก้าวไปด้วยกัน
โดย ณัฐชยา เหมือนสมหวัง
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|