เรื่อง แนวคิดการจัดทำฉากบังเพลิง
พระเมรุมาศในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร มีส่วนประกอบหลายส่วนที่มีขึ้นตามโบราณราชประเพณี ทั้งยังมีเพื่อประโยชน์ใช้สอยในงานพระราชพิธีฯ อีกด้วย สำหรับฉากบังเพลิง เป็นส่วนประกอบหนึ่งบนพระเมรุมาศ ซึ่งเป็นเครื่องกั้นทางขึ้นลงพระเมรุมาศ มักเขียนเป็นรูปเทวดา มีลักษณะเป็นฉากพับได้ติดไว้กับเสาทั้ง 4 ด้าน บริเวณบันไดขึ้นลงพระเมรุมาศ เพื่อมิให้เห็นการถวายพระเพลิงพระบรมศพ และใช้บังลม
ฉากบังเพลิงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้นำแนวคิดพระนารายณ์ 10 ปาง เขียนบนฉากบังเพลิง โดยนำพระนารายณ์อวตาร 8 ปาง จากทั้งหมด 10 ปาง คัดเลือกไว้บนฉากบังเพลิง เพื่อสื่อความหมายลึกซึ้ง ถึงความเป็นพระมหากษัตริย์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่เปรียบเสมือนพระนารายณ์อวตารลงมาเพื่อปราบทุกข์เข็ญให้กับมนุษย์ โดยนารายณ์ปางที่ไม่ได้คัดเลือกมาเขียนบนฉากบังเพลิงคือ นารายณ์ปางที่ 5 และปางที่ 9 ส่วนนารายณ์อวตารทั้ง 8 ปาง ที่ถูกคัดเลือกจะอยู่บนฉากบังเพลิง ทั้ง 4 ทิศ ทิศละ 2 ปาง
ด้านทิศเหนือ หมวดน้ำ แสดงปางที่ 1 คือ ปางมัตสยาวตาร เป็นปางที่พระนารายณ์อวตารลงมาเป็นปลากรายทอง ชื่อ ศผริ (ศะผะริ) เพื่อช่วยมนุษย์โลก และสัตว์ต่างๆ เมื่อน้ำท่วมโลก และปางที่ 2 พระนารายณ์อวตารลงมาเป็นเต่า เรียกว่า ปางกูรามาวตาร อวตารมาช่วยรักษาแผ่นดินโลก ไม่ให้แตกสลาย
ด้านทิศตะวันออก หมวดดิน แสดงพระนารายณ์ปางที่ 3 วราหาวตาร อวตารลงมาเป็นหมูป่าเขี้ยวเพชร ปราบอสูร ชื่อ หิรัณยากษะ และปางที่ 4 ปางนรสิงหาวตาร พระนารายณ์อวตารมีหน้าเป็นราชสีห์ ร่างกายเป็นมนุษย์ทรงเครื่องอย่างเทวดา ลงมาปราบอสูร ชื่อ หิรัณยกศิปุ น้องชายของ หิรัณยากษะ
ด้านทิศใต้ หมวดไฟ ประกอบด้วยปางที่ 6 ปางปรศุรามาวตาร พระนารายณ์อวตารลงมาเป็นพราหมณ์ ใช้ขวานเป็นอาวุธ เพื่อปราบกษัตริย์ชื่อ อรชุน ผู้ก่อยุคเข็ญและทำลายล้างศาสนา และปางที่ 7 ปางรามาวตาร หรือ จันทราวตาร พระนารายณ์อวตารลงมาเป็นพระราม ตามแบบเรื่องรามเกียรติ์ ลงมาปราบยักษ์ ทศกัณฑ์
ด้านทิศตะวันตก หมวดลม ประกอบด้วย ปางที่ 8 ปางกฤษณาวตาร อวตารเป็นพระกฤษณะ ในลักษณะนั่งเป่าขลุ่ยบรรเลงเพลงให้ทั้งสรรพสัตว์และมวลมนุษย์เกิดความรัก ไม่เป็นศัตรูต่อกัน และปางที่ 10 ปางกัลกยาวตาร ทรงพระนารายณ์อวตารลงมาเป็นมนุษย์ขี่ม้าขาว หากเกิดกลียุค บรุษขี่ม้าขาวจะมาช่วยแก้ไขปัญหาให้กับโลกมนุษย์ได้
นารายณ์อวตารเป็นแนวคิดความเชื่อที่ผสมผสานระหว่างศาสนาพุทธกับศาสนาพราหมณ์ อ้างอิงจากเนื้อหาในไตรภูมิพระร่วง เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็นสมมติเทพของพระมหากษัตริย์ และความหมายสำคัญในฉากบังเพลิง
นอกจากนี้ ส่วนล่างของฉากบังเพลิงยังมีการเชิญโครงการอันเนื่องมากจากพระราชดำริ ที่คัดสรรโครงการเด่นๆ มา 24 โครงการ จากกว่าสี่พันโครงการ นำมาถ่ายทอดบนฉากบังเพลิงใน หมวด ดิน น้ำ ลม และไฟ
โดยทิศเหนือ ประกอบด้วยโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในหมวดน้ำ 6 โครงการ ได้แก่ ฝนหลวงแก้ปัญหาความแห้งแล้งในภาคอีสาน ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ อ่างเก็บน้ำเขาเต่า อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพื่อเก็บกักน้ำไว้ในช่วงเวลาที่ขาดแคลนน้ำ โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมากจากพระราชดำริ กังหันน้ำ ชัยพัฒนา เครื่องกลเติมอากาศ บำบัดน้ำเสีย
ทิศตะวันออก โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในหมวดดิน 6 โครงการ ได้แก่ ดินกรวด ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ ดินเค็ม ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน ดินทราย ศูนย์ศึกษา การพัฒนาเขาหินซ้อนและโครงการหุบกะพง-ดอนห้วยขุน ดินดานลูกรัง ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทราย ดินพรุ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง ดินเปรี้ยว ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง
ทิศใต้ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในหมวดไฟ 6 โครงการ ได้แก่ สบู่ดำ ปลูกเพื่อสกัดน้ำมันสามารถใช้แทนน้ำมันดีเซล ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ศูนย์ศึกษาการพัฒนา ภูพาน โรงงานผลิตไบโอดีเซล ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง เชื้อเพลิงอัดแท่ง แกลบอัดแท่ง โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา ก๊าซชีวภาพ โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา พลังงานเซลล์แสงอาทิตย์ ผลิตกระแสไฟฟ้า ใช้ไฟฟ้า สำหรับอุปกรณ์รับส่งสัญญาณดาวเทียม ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ กังหันน้ำผลิตไฟฟ้าที่ประตูน้ำคลองลัดโพธิ์
ทิศตะวันตก โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในหมวดลม 6 โครงการ ได้แก่ กังหันลม โครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ จ.เพชรบุรี เพื่อการผันน้ำจากที่ต่ำชักน้ำขึ้นที่สูง กังหันลม โครงการสถานีเกษตรที่สูงตามพระราชดำริดอยม่อนล้าน จ.เชียงใหม่ กังหันลม โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา ผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานลมและกังหันลมสูบน้ำ ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัย แหลมตะลุมพุก จ.นครศรีธรรมราช เป็นที่มาของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ และบางกระเจ้า ซึ่งเป็นพื้นที่สีเขียวและเป็นปอดของกรุงเทพฯ เนื่องจากลมมรสุมจากอ่าวไทยจะพัดเอาอากาศบริสุทธิ์ที่ผลิต จากพื้นที่แห่งนี้ เข้าฟอกอากาศเสียในกรุงเทพฯ เป็นเวลาปีละ 9 เดือน
ส่วนด้านหลังของฉากบังเพลิงทั้ง 4 ด้าน มีลวดลายเหมือนกันทุกด้าน แบ่งเป็น ด้านบน มีพระปรมาภิไธยย่อ “ภปร” พร้อมดอกดาวเรืองสีเหลือง สีประจำวันพระราชสมภพ แทรกกลางพระปรมาภิไธยย่อ “ภปร” รอบข้างเป็นอุบะดอกมณฑาทิพย์ เชื่อกันว่าเป็นดอกไม้แห่งสรวงสวรรค์ ที่ร่วงหล่นเฉพาะเกิดเหตุการณ์สำคัญแก่ชาวโลก ขนาบด้านซ้ายและขวา พระปรมาภิไธยย่อ “ภปร” ด้วยพุ่ม
ต้นมณฑาทิพย์ทอง สื่อถึงการถวายสักการะแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ส่วนด้านล่างประกอบด้วยดอกไม้มงคล
โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริซึ่งถูกถ่ายทอดบนฉากบังเพลิงเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นที่สะท้อนให้เห็นถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่มีต่อพสกนิกรของพระองค์ พระองค์ทรงห่วงใยความเป็นอยู่ของประชาชนชาวไทยทุกภูมิภาคทั่วประเทศ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริกว่าสี่พันโครงการจึงเกิดขึ้นเพื่อพัฒนาให้ประชาชนชาวไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยเหตุนี้ จึงไม่ต้องสงสัยว่าเหตุใดปวงชนชาวไทยจึงรักในหลวงรัชกาลที่ 9 สุดหัวใจเช่นเดียวกัน
โดย ปัทมาวดี เหลือสม
เรียบเรียงโดยสมจิตร ตาลสุก
|