เรื่อง คอร์รัปชั่น : ฉัน ไม่ขอรับ
ไม่ว่าปัญหาใด ๆ เมื่อเกิดขึ้นแล้วถูกละเลย หรือถูกมองข้ามไป ก็จะยิ่งสะสม บานปลายมากขึ้น การทุจริตคอร์รัปชั่นก็เช่นกัน ทั่วโลกต่างให้ความสำคัญกับการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างมาก นับเป็นปัญหาที่ต้องรีบแก้ไขก่อนที่จะทำให้ปัญหาการคอร์รัปชั่นแปลสภาพเป็นวัฒนธรรมการคอร์รัปชั่นที่ฝังรากลึก และค่อย ๆ กัดกร่อนทำลายโครงสร้างตั้งแต่สังคมเล็ก ๆ ระดับชุมชน ไปจนถึงโครงสร้างใหญ่ระดับชาติ และด้วยสาเหตุนี้เองจึงทำให้เกิดวันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล (International Anti-Corruption Day) ขึ้น
วันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล (International Anti-Corruption Day) นั้นได้เกิดขึ้นหลังจากที่ประชุมใหญ่สมัชชาสหประชาชาติ (UN) ได้มีมติเห็นชอบในอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๖ (United Nations Convention against Corruption-UNCAC, ๒๐๐๓) เมื่อวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๔๖ ประเทศไทยและประเทศภาคีสมาชิก UN ๑๙๑ ประเทศ จากนั้นประเทศภาคีสมาชิก UN ทั้ง ๑๙๑ ประเทศรวมถึงประเทศไทย ก็ได้เข้าร่วมลงนามในอนุสัญญา ระหว่างวันที่ 9-11 ธันวาคม 2546 ณ เมืองเมอริด้า ประเทศเม็กซิโก ด้วยเหตุนี้เอง UN จึงประกาศให้วันที่ 9 ธันวาคมของทุกปีเป็น วันต่อต้านคอร์รัปชันสากล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะสร้างความรับรู้ และกระตุ้นให้เกิดแรงผลักดันทางบวกที่อาจจะเปลี่ยนโลกในแง่ของการร่วมกันแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น ที่จะบั่นทอนความมั่นคงของภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงทุกภาคส่วนในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นระบบเศรษฐกิจ ระบบโครงสร้างการศึกษา ทำลายโครงสร้างระบบสาธารณูปโภคของประชาชน กัดกินงบประมาณในการพัฒนาประเทศ อีกทั้งยังทำให้ความเจริญและการพัฒนาประเทศไม่เป็นไปตามที่ควรจะเป็น
ดังนั้นการสร้างจิตสำนึกที่ดีจึงเป็นมาตรการที่สำคัญยิ่งในขั้นตอนแรกของกระบวนการ ที่จะเพาะปลูกเมล็ดแห่งคุณธรรม จริยธรรมให้งอกงาม และเติบโตในภายภาคหน้า แผ่กิ่งก้านสาขา ออกดอกผลแห่งความตระหนักรู้ซึ่งเป็นอาวุธที่ทรงอานุภาพในการที่จะต่อสู้กับอำนาจทำลายล้างของคำว่า “คอร์รัปชั่น” ให้หมดสิ้นไปจากสังคมต่อไป
โดย ดนัย ไพรวัลย์
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|