เรื่อง สนับสนุนการใช้ยางพาราในหน่วยงานภาครัฐ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เคยกล่าวไว้เมื่อเดือนมกราคม 2559 เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ว่า “...เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นต้องแก้กันไป ทุกคนต้องปฏิรูปตัวเองช่วยเหลือตัวเองบ้าง โดยเฉพาะชาวสวนยาง ไม่มีรัฐบาลใดต้องการเห็นประชาชนเดือดร้อน ยิ่งเป็นเกษตรกรชาวไร่ชาวนาที่เป็นกระดูกสันหลังของชาติด้วยแล้ว...” รัฐบาลแทบทุกรัฐบาลจะเร่งแก้ไขปัญหาเมื่อประชาชนต้องประสบกับปัญหาในเรื่องปากท้อง
รัฐบาล คสช.ก็เช่นกันต่างเร่งระดมกำลังมันสมองช่วยกันแก้ไขปัญหา ความละเอียดอ่อนเรื่องดัชนีราคาผลผลิตทางเกษตรเกิดขึ้นคู่กับประเทศกสิกรรมมาช้านาน ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพีผูกโยงกับความสามารถในการใช้จ่ายภาคการผลิตด้านการเกษตรเป็นหลัก ราคายางตกต่ำด้วยปัจจัยทั้งภายในและภายนอก โดยเฉพาะนโยบายที่ให้เกษตรกรปลูกยางพาราแทนการปลูกมันสำปะหลังหรือปลูกข้าว รัฐบาลพยายาม ทุกวิถีทางที่จะทำให้ราคายางขยับสูงขึ้น ไม่รอลุ้นให้ราคายางในตลาดโลกสูงขึ้น หรือยึดโยงราคายางพาราเข้ากับราคาน้ำมัน การสนับสนุนการใช้ยางพาราด้วยการเพิ่มมูลค่าราคาสินค้าจึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่เป็นทางออกและตัวช่วย ด้วยการวิจัยและการพัฒนา หรือ Research and Development จากรายงานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เกี่ยวกับสถานการณ์ด้านวิจัยและพัฒนาของไทย พบว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา งบประมาณลงทุน ด้านการวิจัยและพัฒนาเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.24 ต่อจีดีพี แม้ประสิทธิภาพการวิจัยและพัฒนา ของไทยเมื่อเทียบกับอีก 47 ประเทศทั่วโลกยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ต่ำ แต่ปัจจุบันได้ขยับมาอยู่ที่ร้อยละ 57 ซึ่งเหนือกว่าประเทศอินโดนีเซียและประเทศฟิลิปปินส์ซึ่งส่งออกยางพารารายใหญ่
ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่ควรเอาจริงเอาจังด้วยการพึ่งตนเองให้ได้ ไม่หวังรอความช่วยเหลือจากภาครัฐเพียงอย่างเดียว นอกจากขายยางในรูปของยางแผ่นดิบหรือยางแผ่นรมควันแล้ว ควรเร่งเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าด้วยการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ อาทิ ผลิตเป็นหมอนหรือเก้าอี้ยางพาราที่มีความทนทาน หรือผลิตเป็นสินค้าใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะ และการที่หน่วยราชการและภาคเอกชนได้เคยจัดแสดงผลิตภัณฑ์ และการใช้ประโยชน์จากการแปรรูปยางพาราใน 7 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อการท่องเที่ยว, การเกษตร, การคมนาคม, การทหาร, การแพทย์และเครื่องสำอาง, ที่พักอาศัยและเครื่องอุปโภค และการผลิตภาคอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ยังเร่งหาช่องทางสนับสนุนด้วยการจัดซื้อยางพารา ตามมาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ เช่น การสนับสนุนการใช้ยางพาราในหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2561 เห็นชอบการสนับสนุนงบประมาณรายจ่าย งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวนกว่า 2,338 ล้านบาทเพื่อดำเนินการสนับสนุนการใช้ยางพาราในหน่วยงานภาครัฐตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ดังนี้.-
-การซ่อมปรับปรุงถนน 274 เส้นทางของกองบัญชาการกองทัพไทย ระยะทางกว่า 604 กิโลเมตร ปริมาณน้ำยางกว่า 6,000 ตัน และการปูพื้นยางสระอาบน้ำ จำนวน 60 สระ ปริมาณน้ำยาง 132 ตัน
-การซ่อมปรับปรุงถนน 405 เส้นทางของกองทัพบก ระยะทางกว่า 932 กิโลเมตร ปริมาณน้ำยางกว่า 10,000 ตัน
-การสำรวจประเมินผลการสนับสนุนการใช้ยางพาราในหน่วยงาน
ขณะเดียวกัน ชาวสวนยางพาราต้องยอมลดพื้นที่ปลูกยางหันไปปลูกพืชอื่นสลับกันบ้าง อีกทั้งเร่งส่งเสริมด้านการวิจัยและการพัฒนา หรือ Research and Development ดังได้กล่าวมา.
โดย พรรณี ตั้งใจสถาปัตย์
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|