เรื่อง เร่งปฏิบัติตามโรดแมปการปฏิรูป
หลังจากแผนการปฏิรูปประเทศทั้ง 11 ด้าน คือ ด้านการเมือง ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน ด้านกฎหมาย ด้านกระบวนการยุติธรรม ด้านการศึกษา ด้านเศรษฐกิจ ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้านสาธารณสุข ด้านสื่อมวลชน ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านสังคมและอื่น ๆ ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา
ขั้นตอนถัดไปคือ การแปลงแผนไปสู่การปฏิบัติเพื่อให้เกิดการปฏิรูปอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีการติดตามและขับเคลื่อนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยมีคณะกรรมการปฏิรูปแต่ละคณะที่มีวาระ 5 ปี ทำหน้าที่ดังกล่าว เช่น คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจที่มีนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล เป็นประธาน เผยว่า ขณะนี้เป็นช่วงของการแปลงแผนไปสู่การปฏิบัติ โดยคณะกรรมการฯ อยู่ระหว่างการเดินสายชี้แจงแผนกับกระทรวงต่าง ๆ และมีทีมงานที่ประสานกับแต่ละกระทรวงให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับการทำแผนปฏิบัติการระดับกระทรวงที่ต้องจัดทำ และเสนอต่อคณะรัฐมนตรี
จากการเดินสายชี้แจง พบว่า แผนปฏิรูปกับแผนกระทรวงมีความสอดคล้อง อย่างไรก็ตาม โจทย์สำคัญของคณะกรรมการฯ ต่อจากนี้คือ การติดตามการทำงานของหน่วยงานเกี่ยวข้องตามแผนปฏิรูป โดยเซตทีมที่ทำงานประจำหรือกึ่งถาวรเพื่อเป็นแขนขา ซึ่งตามแผนและขั้นตอนการปฏิรูปประเทศมีความเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ชาติและรัฐธรรมนูญ หลังจากจัดทำแผนปฏิบัติการเสนอต่อคณะรัฐมนตรีแล้วจะดำเนินการตามแผนทางปฏิบัติซึ่งตามกฎหมายคณะกรรมการปฏิรูปฯ มีหน้าที่ติดตามการดำเนินการตามแผน ถ้าหากกระทรวงไม่สามารถกระทำฯ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติจะดำเนินการตามกลไก แต่ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญหน่วยงานแต่ละหน่วยผูกพันต้องทำตามทั้งแผนปฏิรูปและแผนยุทธศาสตร์ชาติ
สำหรับแนวทางการปฏิรูปเศรษฐกิจของคณะกรรมการฯ ภายใต้หลักการ “แข่งขันได้ – กระจายประโยชน์สู่ประชาชน – เติบโตยั่งยืน” ประกอบด้วย 3 เสาหลัก คือ.-
-การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
-การสร้างความเท่าเทียมและการเติบโตอย่างมีส่วนร่วม
-การปฏิรูปสถาบันทางเศรษฐกิจ ปรับกลไกและบทบาทภาครัฐ
ทั้ง 3 เสาหลักอาจยากในทางปฏิบัติ เพราะเป็นส่วนที่ว่าด้วยการปฏิรูปสถาบันที่เกี่ยวข้องกับนโยบายเศรษฐกิจ เกี่ยวข้องกับคน ระบบราชการ ซึ่งต้องใช้เวลาเพราะมี ฝ่ายที่แสดงความเห็นต่าง
ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ (นายประสาร ไตรรัตน์ วรกุล) กล่าวว่า เป้าหมายแผนปฏิรูปเศรษฐกิจมีหลายเป้าหมาย อาทิ ทำให้เศรษฐกิจในอีก 20 ปีข้างหน้าโตปีละ 5 เปอร์เซ็นต์ รายได้ประชาชาติจาก 6,000-7,000 ดอลลาร์สหรัฐ/คน/ปี เพิ่มเป็น 1.5 หมื่นดอลลาร์/คน/ปี ดัชนีวัดความเหลื่อมล้ำลดลงจาก 0.45 เหลือ 0.36 เปอร์เซ็น สัดส่วนประชาชนที่ยากจน 8-9 เปอร์เซ็นต์เหลือต่ำกว่า 6.5 เปอร์เซ็นต์ ทั้งหมดนี้ ณ สิ้นปีที่ 20 พ.ศ. 2579 จะไปถึงเป้าหมายเพียงใดนั้นขึ้นอยู่กับการปฏิบัติว่าทำได้เพียงใด ในแต่ละแผนแสดงให้เห็นชัดว่า ถ้าทำ หรือทำบางส่วน หรือไม่ทำเลย จะได้รับผลเช่นใด.
โดย พรรณี ตั้งใจสถาปัตย์
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|