เรื่อง   กฎหมายการปลูกไม้มีค่าในที่ดินกรรมสิทธิ์

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยภายหลัง  เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (กขร.) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบการเร่งรัดกฎหมาย 3 ฉบับเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองประชาชนในการทำสัญญาขายฝากที่ดิน  เพื่อเกษตรกรรมหรือที่อยู่อาศัย, การแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวกับการปลูกไม้มีค่าในที่ดินกรรมสิทธิ์ และร่างพระราชบัญญัติรัฐบาลดิจิทัล

การแก้ไขกฎหมายปลูกไม้มีค่าในที่ดินกรรมสิทธิ์นั้น ที่ผ่านมาประชาชน  ปลูกไม้มีค่าในพื้นที่ของตนเอง เช่น ไม้พะยูง ไม้สัก ไม้ชิงชัน แต่ไม่สามารถตัดได้ ทั้งที่ตั้งใจจะปลูกต้นไม้ไว้เป็นธนาคารต้นไม้เพื่อตัดขายเป็นทุนการศึกษา หรือเป็นทุนแต่งงาน รวมทั้งมีเงินใช้ยามเกษียณ ซึ่งจะแก้ไขกฎหมายพระราชบัญญัติป่าไม้ปี 2484 ว่า จะให้มีไม้กี่ชนิดประเภทที่ทำได้ โดยกรมป่าไม้จะไปหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัด  การดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (กขร.) ประชุมครั้งที่ 3/2561 เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2561 เห็นชอบในหลักการ การแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการปลูกไม้มีค่าในที่ดินกรรมสิทธิ์           มีสาระสำคัญคือ.-

เป็นการแก้ไขพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 ในมาตรา 7            ซึ่งกำหนดให้ไม้สัก และไม้ยาง รวมถึงไม้ตามประกาศคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ฉบับที่ 106/2557 ไม่ว่าขึ้นอยู่ที่ใดในราชอาณาจักรเป็นไม้หวงห้าม การทำไม้หรือนำไปใช้ประโยชน์จึงต้องมีการอนุญาตตามกฎหมาย และเมื่อประชาชนปลูกไม้มีค่าในพื้นที่ของตนเอง เช่น ไม้พะยูง ไม้สัก ไม้ชิงชัน ไม่สามารถตัดได้ทั้งที่ตั้งใจปลูกไว้เป็นธนาคารต้นไม้ ด้วยเหตุนี้ กรมป่าไม้จึงเสนอให้มีการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการปลูกไม้มีค่าในที่ดินกรรมสิทธิ์โดยพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้มีระบบกำกับ ควบคุม ตรวจสอบย้อนกลับ     การรับรองไม้ในที่ดินกรรมสิทธิ์ที่เป็นไปตามมาตรฐานสากลเพื่ออำนวยประโยชน์แก่ประชาชนอย่างเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งเป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกไม้เศรษฐกิจในที่ดินกรรมสิทธิ์ หรือที่ดินที่มีสิทธิในการใช้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย และช่วยเพิ่มพื้นที่ป่าเศรษฐกิจให้กับประเทศ

รัฐบาลมีความพยายามแก้ไขกฎหมายดังกล่าวมานานแล้ว แต่ไม่สำเร็จ   พร้อมเปิดทางให้ปลูกไม้มีค่าในที่ดินของตน ไว้ตัดขายเป็นทุนการศึกษาลูกหลาน ทุนการแต่งงาน และเพื่อไม่ให้ถูกไล่จับตามกฎหมาย.

โดย   พรรณี ตั้งใจสถาปัตย์  
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก