เรื่อง คณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้

นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์            เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ ครั้งที่ 2/2561       วันที่ 30 เมษายน 2561 ณ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ที่ประชุมรับทราบผลการดำเนินงาน 4 ประเด็น ได้แก่ โครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อรวบรวมผลไม้ของสถาบันเกษตรกรปี 2561, การแก้ไขผลกระทบจากกรณีสาธารณรัฐอินโดนีเซียกำหนดช่วงระยะเวลาการนำเข้าผลไม้สดจากต่างประเทศ พ.ศ. 2561, การรณรงค์เกษตรกรผลิตและพัฒนาคุณภาพลำไยสด, การรายงานสถานการณ์การผลิตไม้ผลปี 2561 (ภาคตะวันออก ภาคเหนือ และภาคใต้) และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2561 เห็นชอบยุทธศาสตร์การค้าผลไม้ครบวงจรตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ

ประเด็นการแก้ไขผลกระทบจากกรณีสาธารณรัฐอินโดนีเซียกำหนดช่วงระยะเวลาการนำเข้าผลไม้สดจากต่างประเทศ พ.ศ. 2561 ซึ่งกระทรวงเกษตรสาธารณรัฐอินโดนีเซียปรับปรุงหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติการนำเข้าผลิตภัณฑ์พืชสวน              จากต่างประเทศให้ทันสมัย โดยกำหนดช่วงระยะเวลาในการรับรองให้มีการนำเข้าผลิตภัณฑ์พืชสวนสด ปี 2561 ตั้งแต่เดือนมกราคม-เดือนธันวาคม อนุญาตให้นำเข้าผักสดและผลไม้สดได้เพียงบางรายการ และบางช่วงเวลา

-ผักสด อนุญาตให้นำเข้าได้เพียง 3 รายการ ได้แก่ มันฝรั่งสำหรับทำมันฝรั่ง อบกรอบ หอมหัวใหญ่ และกระเทียม

-ผลไม้สด อนุญาตให้นำเข้าเพียง 12 รายการ ได้แก่ มะม่วง ส้ม ส้มแมนดารินรวมถึงส้มเขียวหวานและส้มซัทซูมา ส้มคลีเมนทีน ส้มอื่น ๆ เกรปฟรุต มะนาว มะนาวอื่น ๆ องุ่น แอปเปิ้ล ทุเรียน ลำไยนำเข้าได้ทุกเดือนยกเว้นเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม ซึ่งลำไยสดเป็นสินค้าพืชสวนที่ประเทศไทยได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากสาธารณรัฐอินโดนีเซีย   ห้ามนำเข้าเดือนกรกฎาคม – สิงหาคมซึ่งเป็นช่วงที่ลำไยจากประเทศไทยมีผลผลิตออกสู่ตลาดในปริมาณมาก ทั้งนี้ สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติอยู่ระหว่าง        การพิจารณาการจำกัดนำเข้าสินค้าอินโดนีเซียที่ยังไม่ต่ออายุใบขออนุญาตการนำเข้า ในประเทศไทย

การสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการดำเนินงานในการแก้ไขผลกระทบจากกรณีสาธารณรัฐอินโดนีเซียกำหนดช่วงระยะเวลาการนำเข้าผลไม้สดจากต่างประเทศ พ.ศ. 2561 ทำให้ประชาชนรับรู้เกี่ยวกับการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขผลกระทบจากกรณีสาธารณรัฐอินโดนีเซียกำหนดช่วงระยะเวลาการนำเข้าผลไม้สดจากต่างประเทศ พ.ศ. 2561 และเกษตรกรมีตลาดการจำหน่ายลำไยภายในประเทศเพิ่มขึ้น อาจมีตลาดต่างประเทศอื่นรองรับแทนสาธารณรัฐอินโดนีเซีย.

โดย   พรรณี ตั้งใจสถาปัตย์
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก