เรื่อง แนวทางแก้ไขปัญหาการเอารัดเอาเปรียบผู้ใช้แรงงาน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้กระทรวงแรงงาน เร่งตรวจสอบสถานประกอบการต่าง ๆ ที่มีพฤติกรรมเอารัดเอาเปรียบผู้ใช้แรงงาน และเร่งแก้ไขปัญหา เช่น นายจ้างกดดันให้ผู้ใช้แรงงานชาวไทยลาออกจากงาน โดยการลดเงินเดือน/ค่าจ้าง เนื่องจากต้องการจ้างแรงงานต่างชาติที่มีค่าแรงถูกกว่า เป็นต้น
กระทรวงแรงงาน จึงบูรณาการหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการตรวจ แรงงานในสถานประกอบกิจการที่มีพฤติกรรมเอารัดเอาเปรียบผู้ใช้แรงงานในสถานประกอบกิจการทั่วไป จำนวน 31,596 แห่ง พบสถานประกอบการที่ปฏิบัติไม่ถูกต้องตามกฎหมาย จำนวน 7,102 แห่ง การเรียกร้องสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย รวมทั้งเพิ่มช่องทางการร้องเรียน โดยลูกจ้างสามารถร้องเรียนที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ทุกพื้นที่ หรือผ่านช่องทางบริการต่าง ๆ เช่น โทรศัพท์ โทรสาร สายด่วน 1506 กด 3 เพื่อให้พนักงานตรวจแรงงานเข้าไปตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่ได้
การเร่งตรวจสอบสถานประกอบการต่าง ๆ ที่ผู้ประกอบการมีพฤติกรรม เอารัดเอาเปรียบผู้ใช้แรงงานเพื่อประโยชน์ทั้งนายจ้าง ลูกจ้าง และประชาชนทั่วไปให้ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานได้อย่างถูกต้อง อาทิ การประกาศใช้กฎกระทรวงคุ้มครองแรงงานในงานประมงทะเล (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 ข้อ 8 (3) ที่ระบุว่า อัตราค่าจ้างและค่าทำงานในวันหยุดที่นายจ้างตกลงจ่ายให้แก่ลูกจ้าง และจำนวนค่าจ้างและค่าทำงาน ในวันหยุดที่ลูกจ้างแต่ละคนได้รับ เมื่อมีการจ่ายค่าจ้างและค่าทำงานในวันหยุดให้แก่ลูกจ้าง ให้นายจ้างจัดให้ลูกจ้างลงลายมือชื่อในเอกสารตามวรรคหนึ่ง ไว้เป็นหลักฐาน และให้นายจ้างเก็บรักษาเอกสารตามวรรคหนึ่งไว้ไม่น้อยกว่าสองปีนับแต่วันจ่ายเงิน เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อมิให้เป็นการเอาเปรียบซึ่งกันและกันระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง ซึ่งเหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้คือ โดยที่กฎกระทรวงคุ้มครองแรงงานในงานประมงทะเล พ.ศ. 2557 ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 มีบทบัญญัติบางประการ ไม่สอดคล้องกับสภาพการจ้างงานในงานประมงทะเล และกฎหมายว่าด้วยการประมง สมควรแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีการจ่ายค่าจ้างเพื่อคุ้มครองแรงงานให้ได้รับค่าจ้าง ที่เป็นธรรม และให้นายจ้างจัดสวัสดิการให้แก่ลูกจ้าง เช่น จัดให้มีอุปกรณ์หรือระบบการสื่อสารรับส่งข้อความผ่านดาวเทียมเพื่อให้ลูกจ้างสามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานของรัฐ สามี ภริยา หรือญาติได้ตลอดเวลา จึงจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงและออกเป็นกฎกระทรวงฉบับดังกล่าว เป็นต้น
นายจ้าง ลูกจ้าง และประชาชนทั่วไปที่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานได้อย่างถูกต้อง เมื่อมีการเอารัดเอาเปรียบกันและกันแล้ว ลูกจ้างชาวไทยและต่างชาติที่ถูกละเมิดสิทธิจะได้รับการช่วยเหลือ และได้รับการเยียวยาตามกฎหมาย ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กระทรวงแรงงาน โทร. 02-245-1707.
โดย พรรณี ตั้งใจสถาปัตย์
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|