รายงานพิเศษ : “คนไทยใช้ปิ่นโตทดแทนโฟมและพลาสติกในเขตอุทยานแห่งชาติ”
การรณรงค์ให้คนไทยและนักท่องเที่ยวหันมาใช้ “ปิ่นโต” ทดแทนโฟมและบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งในเขตอุทยานแห่งชาติ จะช่วยสร้างการตื่นตัวลดขยะที่ไม่จำเป็นและรักษาชีวิตสัตว์ป่าให้ปลอดภัยจากขยะที่ย่อยสลายยากในธรรมชาติลงได้
ในอดีตที่ผ่านมาคนไทยมักใช้ “ปิ่นโต” ใส่อาหารคาวหวานไปถวายพระ นักเรียนนำไปรับประทานตอนกลางวัน หรือผู้ที่ทำงานนอกบ้าน แต่ความเจริญของสังคมโลกค่อยๆกลืนกินวัฒนธรรมเหล่านี้ไปอย่างช้าๆ แล้วหันนิยมใช้พลาสติกและโฟมเข้ามาแทนที่ จนสร้างขยะที่ย่อยสลายยากอย่างที่หลายคนเห็นกองเป็นภูเขาและแพขยะลอยอยู่ในทะเล แต่ในช่วง 2 ปีหลังประเทศไทยและทั่วโลกต่างให้ความสำคัญกับการลดขยะ โดยเฉพาะขยะโฟมและบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อโลก การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ระบบนิเวศ และชีวิตสัตว์ป่าอย่างไม่คาดคิด จากการตื่นตัวดังกล่าวทุกวันนี้สังคมโลกในหลายประเทศงดจำหน่ายและใช้พลาสติกทั้งหมดแล้ว ด้วยการออกเป็นกฎหมายบังคับใช้ภายในประเทศอย่างจริงจัง ขณะที่ไทยยังไม่สามารถทำอย่างประเทศเหล่านั้นได้ จึงค่อยๆสร้างจิตสำนึกและรณรงค์ให้คนไทยหันมาใช้ถุงผ้า หรือวัสดุทำจากธรรมชาติ หรือวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแทน
การเติบโตของภาคการท่องเที่ยวเป็นอีกหนึ่งที่สร้างปัญหาขยะอย่างมหาศาล โดยเฉพาะไทยใช้การท่องเที่ยวขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศจึงต้องลดงดสร้างขยะหรือพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งและการใช้วัสดุสำหรับทดแทนพลาสติกจากกิจกรรมท่องเที่ยว เช่น การใช้ถุงผ้า ขวดน้ำพกพา กล่องข้าวพกพา หลอดดูดน้ำจากวัสดุธรรมชาติ การใช้ผ้าเช็ดหน้า เพื่อให้เป็นไปตามแผนลดการใช้พลาสติกในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวลงให้ได้ร้อยละ 50 ในปี 2563 ควบคู่กับรณรงค์ให้การท่องเที่ยวรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เล่าให้ฟังว่า ภาครัฐและภาคเอกชนร่วมกันดึงการใช้ปิ่นโตมาใช้ทดแทนโฟมและพลาสติกในเขตอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศนำร่อง 500 เถาแรก ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ทำจากเมลามีนสำหรับใช้ใส่อาหารและนำกลับมาใช้ใหม่ได้
ขณะนี้ พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวให้ฟังเพิ่มเติมว่า ในเบื้องต้นจะนำร่องนำปิ่นโตไปใช้ทดแทนโฟมและพลาสติกในเขตอุทยานแห่งชาติทางทะเล 10 แห่งก่อน เช่น อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ , อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี , อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง , เกาะสมุย , เกาะพะงัน , เกาะเต่า เนื่องจากมีจำนวนนักท่องเที่ยวจำนวนมากนำข้าวกล่องขึ้นไปกินบนเกาะต่างๆ เพื่อลดใช้โฟมและพลาสติกลงด้วยการหันมาใช้ปิ่นโตแทน ที่ก่อให้เกิดปริมาณขยะพลาสติกและโฟมมากกว่าปีละ 2 ล้านตัน
ปัจจุบันประชาชนและนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเข้าไปท่องเที่ยวและพักผ่อนในพื้นที่อุทยานแห่งชาติมากขึ้นทุกปี ส่งผลให้เกิดขยะจากกิจกรรมการท่องเที่ยวมากขึ้นเช่นกัน จึงจำเป็นต้องลดปริมาณขยะจากภาคการท่องเที่ยวและนักท่องเที่ยวลงให้มากที่สุดด้วยการใช้วัสดุที่ทำจากธรรมชาติหรือวัสดุทดแทนโฟมและพลาสติกลงสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล