การประชุมครั้งนี้ มีวาระสำคัญเรื่อง โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากของจังหวัดเพชรบูรณ์,สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์, สถานการณ์ไข้เลือดออก,สถานการณ์น้ำ,ความคืบหน้าการขอเข้าทำประโยชน์ในที่ดิน สปก.เป็นแหล่งกักเก็บน้ำ ของการประปาส่วนภูมิภาคสาขาชนแดน หน่วยบริการวังโป่ง เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่อำเภอวังโป่ง,ผลการดำเนินงานการแก้ไขปัญหาน้ำอุปโภคบริโภคพื้นที่อำเภอศรีเทพ,ผลการดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรม,รายงานสรุปแนวทางแก้ไขปัญหาพื้นที่ภูทับเบิก,ผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหายาเสพติดจังหวัดเพชรบูรณ์,และการดำเนินงานปรับปรุงถนนทางขึ้น     วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว

       สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนนั้น บริษัทไบโอเทค กรีน เอ็นเนอร์จี จำกัด ได้นำเสนอการจัดตั้งโรงฟ้าชุมชนให้ที่ประชุมพิจารณา  ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตไฟฟ้าจากหญ้าเนเปียร์ เป็นการนำหญ้าเนเปียร์มาหมักเป็นก๊าซชีวภาพและนำไปเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า โดยพื้นที่ที่เหมาะสมในการให้เกษตรกรปลูกหญ้าเนเปียร์ คือ พื้นที่ อ.วังโป่ง ส่วนพื้นที่ในการจัดตั้งโรงไฟฟ้าชุมชน (ขนาด 3 เมกกะวัตต์) 3 แห่ง อาจอยู่ที่ 1.ต.วังหิน อ.วังโป่ง 2. ต.เพชรละคร อ.หนองไผ่ และ 3. ต.หนองแจง อ.บึงสามพัน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เห็นว่าเป็นประโยชน์อย่างมากต่อชาวเพชรบูรณ์ ฝากให้บริษัทเสนอโครงการต่อ นายก อบจ.เพชรบูรณ์ เพื่อผลักดันให้เกิดโครงการนี้ต่อไป

       ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ มีความห่วงใยถึง การกลับมาระบาดระลอกที่ 2 ที่ 3 โดยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ ชี้แจงว่าเป็นการคาดการณ์ทางทฤษฎี แต่หากได้ปฎิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด การระบาดระลอก 2 ไม่น่าจะมี โดยเฉพาะจังหวัดเพชรบูรณ์ มีความเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งของกลุ่ม อสม. ทำให้สามารถควบคุมป้องกันได้ดี ส่วนเรื่องการเรียนการสอนระบบออนไลน์ และการเปิดภาคเรียนในวันที่ 1 กค.63          ฝากศึกษาธิการจังหวัดฯ ดูแลอย่างเข้มงวดตามมาตรการป้องกันโรค COVID-19 โดยให้พิจารณาให้รอบด้านทั้งด้านสาธารณสุข สังคม และเศรษฐกิจ สำหรับสถานการณ์ไข้เลือดออก ตามข้อสั่งการของ ผวจ.เพชรบูรณ์ ให้ดำเนินการกำจัดลูกน้ำยุงลายในกลุ่มโรงเรียน และวัดนั้น นายแพทย์ สสจ.พช.ได้รายงานผลในส่วนของโรงเรียนทั้งหมด 582 แห่ง ได้เข้าดำเนินการแล้ว 547 แห่ง คิดเป็น 94% การให้ครบถ้วนก่อนเปิดเทอมในวันที่ 1 กค.63//ส่วนวัดทั้งหมด 1,052 แห่ง ได้เข้าดำเนินการแล้ว 974 แห่ง คิดเป็น 92% และจากการดำเนินการพบว่า 1 ใน 3 ของจำนวนวัดทั้งหมด มีลูกน้ำยุงลาย

       ด้านสถานการณ์น้ำนั้น อ่างเก็บน้ำขนาดกลางของจังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวน 11 แห่ง ปัจจุบันมีปริมาณน้ำประมาณ 32 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นประมาณ 17 เปอร์เซ็นต์ มีปริมาณน้ำสามารถใช้การได้ 14 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 7 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณฝนที่ตกตั้งแต่เดือนมกราคมถึงปัจจุบัน อยู่ในเกณฑ์เฉลี่ยประมาณ 284 มม. ซึ่งในปีนี้กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าฝนจะทิ้งช่วงประมาณ สัปดาห์ที่ 4 ของเดือนมิถุนายน จนกระทั่งถึงประมาณวันที่ 15 กรกฎาคม ส่วนน้ำอุปโภคบริโภคของ อ.เมืองเพชรบูรณ์ จะมีน้ำดิบจากป่าแดง,ป่าเลา               (ที่เกิดจากฝนตกช่วง พ.ค.63 เป็นต้นมา) สมทบกับน้ำบริเวณหลังพระใหญ่ ใช้ผลิตน้ำประปาได้ถึงเดือน สิงหาคม 2563